หมวดหมู่: แมว

แมวโกนจา นับว่าเป็นแมวอีกสายพันธุ์หนึ่งที่นับว่าเป็นแมวไทยโบราณที่ปรากฏชื่อในสมุดข่อย โดยแมวชนิดนี้นับว่าเป็น 1 ใน 5 แมวโบราณที่ยังสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน ซึ่งโกนจา แม้ว่าจะเป็นแมวที่มีสีดำสนิททั้งตัว แต่ไม่ถือว่าเป็นอัปมงคลแต่อย่างใด เนื่องจากโบราณเชื่อกันว่าแมวชนิดนี้จะช่วยเรื่องเงินทอง สุขภาพ หน้าที่การงาน อำนาจวาสนา และช่วยเรื่องของความสมปรารถนาให้แก่ผู้เลี้ยง เป็นต้น

แมวโกนจา แมวที่มาพร้อมลักษณะพิเศษ และมีนิสัยของการเป็นนักผจญภัยสูง

            แมวโกนจาหรือ แมวโกญจา คือหนึ่งในแมวที่ปรากฏชื่อในสมุดข่อย ตำราแมวไทยโบราณ โดยแมวชนิดนี้นับว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่ในปัจจุบันนั้นหาได้ค่อนข้างง่าย แต่ไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไร เมื่อเทียบกับแมวมงคลชนิดอื่น ๆ

นอกจากนี้คุณปรีชา วัฒนา ผู้อนุรักษ์แมวไทยโบราณ ยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า แมวไทยโบราณที่ในปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 5 สายพันธุ์นั้น ได้มีการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้ว 3 สายพันธุ์ ได้แก่ แมวขาวมณี, แมววิเชียรมาศ และแมวสีสวาด ซึ่งล้วนเป็นชาวต่างชาติที่นำไปขึ้นทะเบียน ส่วนแมวศุภลักษณ์นั้นคุณปรีชา ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พยายามในการพัฒนาสายพันธุ์แมวชนิดนี้ให้เป็นไปตามเกณฑ์การขึ้นทะเบียนแมวของ The Cat Fanciers Association (CFA) ส่วนแมวโกนจานั้นเป็นแมวที่เราไม่มีโอกาสได้ขึ้นทะเบียน เนื่องจากต่างชาติได้มีการพัฒนาสายพันธุ์แมวดำ และขึ้นทะเบียนในชื่อของ “แมวบอมเบย์”

ลักษณะของแมวโกนจา

            แมวโกนจาลักษณะ ที่ตรงตามตำราแมวโบราณจะต้องเป็นแมวที่มีขนสั้น สีดำล้วนทั้งตัว นัยน์ตามีสีขาวอมเหลือง และที่สำคัญคือเท้าจะมีลักษณะทอดคล้ายเท้าสิงห์ ที่สำคัญคือเท้า หรือฝ่าเท่าจะต้องเป็นสีดำ

นิสัยแมวโกนจา

            แมวโกนจะจะมีนิสัยค่อนข้างที่จะเป็นนักสำรวจ มีความรักอิสระ ฉลาด ที่สำคัญคือแมวสายพันธุ์นี้ยังมีลักษณะนิสัยอื่น ๆ ที่คล้ายกับสิงห์ เช่น ปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว และมีรูปร่างและท่าท่างสง่า เป็นต้น

ลักษณะของแมวโกนจา

            แมวโกนจาลักษณะ ที่ตรงตามตำราแมวโบราณจะต้องเป็นแมวที่มีขนสั้น สีดำล้วนทั้งตัว นัยน์ตามีสีขาวอมเหลือง และที่สำคัญคือเท้าจะมีลักษณะทอดคล้ายเท้าสิงห์ ที่สำคัญคือเท้า หรือฝ่าเท่าจะต้องเป็นสีดำ

นิสัยแมวโกนจา

            แมวโกนจะจะมีนิสัยค่อนข้างที่จะเป็นนักสำรวจ มีความรักอิสระ ฉลาด ที่สำคัญคือแมวสายพันธุ์นี้ยังมีลักษณะนิสัยอื่น ๆ ที่คล้ายกับสิงห์ เช่น ปราดปรียว คล่องแคล่วว่องไว และมีรูปร่างและท่าทางสง่า เป็นต้น

อยากเลี้ยงโกนจา หาพันธุ์แมวไม่ยากอย่างที่คิด

            สำหรับแมวโกนจา นอกจากจะเป็นแมวไทยที่หาได้ไม่ยากแล้ว ข้อดีของการ เลี้ยงแมวโกนจา อีกอย่างหนึ่งคือเนื่องจากเป็นแมวไทย ดังนั้นจึงถือว่าเป็นแมวสายพันธุ์ท้องถิ่น ดังนั้นปัจจัยต่าง ๆ จึงเหมาะสมกับการเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้เป็นอย่างยิ่ง

          นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวชนิดนี้ก็สามารถทำได้ไม่ยากนัก โดยคุณสามารถซื้อแมวสายพันธุ์นี้จากฟาร์มที่เพาะเลี้ยงโดยตรง หรือรับเลี้ยงน้องจากมูลนิธิหรือองกรณ์ต่าง ๆ ที่ประกาศหาบ้านให้น้องก็ได้เช่นกัน โดยแมวโกนจา ฟาร์ม ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “บ้านแมวไทยบางรัก” โดยสามารถโทรติดต่อสอบถามไปที่เบอร์ 089 – 777 – 1621

(บทสรุป)           

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับข้อมูล และสาระดี ๆ เกี่ยวกับแมวโกนจา ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีแมวดำอยู่ที่บ้างแล้วอยากทราบว่า แมวตัวนั้นเป็นเจ้าแมวโกนจา แมวไทยโบราณตามตำราแมวหรือไม่ ก็สามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของแมวโกนจาที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปใช้สังเกต หรือเปรียบเทียบกับแมวของตัวเองได้เลย เพราะบางครั้งแมวของคุณอาจจะเป็นหนึ่งในแมวโบราณที่ยังไม่สูญพันธุ์และควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

แมวติดโควิด นับว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่ผู้เลี้ยงหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ดังนั้นวันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโควิดในน้องแมว มาฝากเหล่าทาสทุกคนให้รู้จักสังเกตอาการของน้องแมว และช่วยเป็นแนวทางในการป้องกันไม่ให้น้องแมวของเราเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสด้วย

แมวติดโควิด ภัยเงียบที่ผู้เลี้ยงหลีกเลี่ยงได้

แมวติดโควิด นับว่าเป็นเรื่องที่หลายคนต่างถกเถียงกันเป็นอย่างมากว่า แมวติดโควิดได้ไหม และหากแมวติดโควิดไปแมวติดโควิด อาการ จะเป็นอย่างไร ดังนั้นเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจเว็บไซต์ของเราจึงได้รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับทุกคนแล้ว

แมวติดโควิดได้ไหม 65

สำหรับใครที่สงสัยว่า แมวติดโควิดได้ไหม คำตอบคือ สามารถติดได้ แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไวรัสโควิด – 19 ที่กำลังระบาดในคนนั้น เป็นเชื้อคนละตัวที่ระบาดในสัตว์ ซึ่งเชื่อโควิดที่ระบาดในสัตว์นั้นมีมานานแล้ว และจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดเฉพาะในสัตว์แต่ละสายพันธุ์เท่านั้น และจะไม่มีการระบาดข้ามสายพันธุ์ เช่นไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่ระบาดในแมวก็จะระบาดเฉพาะในแมวเท่านั้น และจะไม่สามารถระบาดไปสู่สุนัขได้นั่นเอง

อาการของแมวติดโควิด

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้แมวติดเชื้อโควิท (ชนิดระบาดในแมว) นั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเกิดจากการเลียขน หรือการที่น้องแมวไปสัมผัสกับอุจจาระที่มีการติดเชื้อ เป็นต้น โดยอาการของน้องแมวที่ติดโควิทจะค่อนข้างมีอาการที่รุนแรงกว่าน้องหมา ซึ่งจะมีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ในช่วงแรกน้องแมวจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัดธรรมดา จากนั้นก็จะเริ่มมีอาการจามค่อนข้างถี่ และอาจจะมีอาการตาแฉะ, น้ำมูกไหล, ท้องเสีย, คลื่นไส้ หรือ น้ำหนักลดร่วมด้วย นอกจากนี้แล้วในแมวบางตัวเชื้อไวรัสยังสามารถกลายพันธุ์เป็นโรคเยี่อบุช่องท้องอักเสบ (FIP)

น้องแมวน้องหมา สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดจากคนได้

สำหรับใครที่สงสัยว่าแมวติดโควิดจากคนได้ไหม คำตอบคือ ทั้งน้องแมวและน้องหมา สามารถติดเชื้อโควิดจากมนุษย์ได้ แต่ต้องเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่กับคนอย่างใกล้ชิด ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ ฐานเศรษฐกิจ ที่ถูกเผยแพร่เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2022 ได้มีการให้ข้อมูลว่า ศจ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ ให้ข้อมูลว่า สุนัขและแมวสามารถติดเชื้อไวรัสโควิดจากคนได้ แต่ต้องอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด แต่แมวติดโควิด หรือสัตว์ที่ได้รับเชื้อจะไม่สามารถแพร่ให้สัตว์อื่น หรือแพร่กลับสู่มนุษย์ไม่ได้ และสำหรับใครที่สงสัยว่าแมวติดโควิดอันตรายไหม คำตอบคือ การติดเชื้อโควิดในสัตว์จะไม่เป็นอันตรายเท่ากับการติดเชื้อในคน และสามารถหายเองได้ใน 3 – 7 วัน แต่ทั้งนี้หากใครที่เป็นกังวลเราแนะนำให้พาน้อง ๆ ไปหาหมอจะเป็นผลดีกับน้องมากที่สุด

บทสรุป

สรุปแล้วแมวติดโควิดสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งเดิมในสุนัขและแมวมีไวรัสโควิดที่เป็นสายพันธุ์ที่แพร่เฉพาะในสัตว์เหล่านั้นอยู่แล้ว และในแมวจะมีอาการจากการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าในสุนัข นอกจากนี้แมวและสุนัขยังสามารถติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จากคนเราได้ด้วย แต่ทั้งนี้หากมีการติดเชื้อในสัตว์จะสามารถหายเองได้ ใน 3 – 7 วัน แต่ทั้งนี้เชื้อโควิทที่ระบาดในแมว (Feline coronavirus) จะสามารถกลายพันธุ์ได้ด้วย ดังนั้นหากใครที่พบว่าน้องแมวมีอาการต่าง ๆ ที่เรากล่าวมาในข้างต้น เราแนะนำให้สามารถพาน้อง ๆ ไปหาหมอจะเป็นผลดีกับน้องมากที่สุด

แมวน่ารัก หรือภาพของน้องแมวที่ทำตัวน่ารัก ๆ นับว่าเป็นภาพที่เรามักจะได้เห็นกันเป็นประจำ ซึ่งแมวนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ และวันนี้เราจะมาแนะนำสายพันธุ์แมวที่ทั้งน่ารัก และเลี้ยงง่าย รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับราคาโดยประมาณของน้องแมวแต่ละสายพันธุ์มาฝากทุกคนแล้ว

แมวน่ารัก 5 สายพันธุ์ที่ครองใจเหล่าทาสตลอดกาล

แมวน่ารัก นั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่สำหรับวันนี้เราขอยก แมวน่ารักๆ 5 สายพันธุ์ ที่นอกจากจะน่ารักแล้ว ยังเลี้ยงง่าย และได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ โดยทั้งหมดมีดังนี้

• แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ (British Shorthair)

บริติช ช็อตแฮร์ นับว่าเป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ โดยแมวชนิดนี้ นับว่าเป็นสายพันธุ์เก่าแก่ของอังกฤษเลยก็ว่าได้ ซึ่งความน่ารักของแมวชนิดนี้นอกจากไปหน้ากลมอ้วนที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว นิสัยของน้องยังน่ารัก เรียบร้อย และเข้ากับคนอื่นง่ายอีกด้วย

• แมวเปอร์เซีย (Persian Cat)

เปอร์เซียนับว่าเป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเปอร์เซียร์เป็นแมวที่ค่อนข้างจะมีใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์จดจำง่าย และที่สำคัญคือนิสัยของน้องที่มีทั้งความเรียบร้อย รักเจ้าของ และไม่ซุกซนจนเกินไป ดังนั้นบรรดาทาสทั้งหลายจึงจะไม่ค่อยปวดหัวกับน้องเท่าไรนั่นเอง

• อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)

ถ้าหากต้องจัดอันดับ แมวน่ารัก10อันดับ เราเชื่อว่า อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ต้องติดหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยแมวสายพันธุ์นี้มักจะมีความโดดเด่นที่ลวดลายบนตัวของน้อง ที่คล้ายกับเสือตัวเล็ก ๆ น่ารัก แต่นิสัยของน้องนั้นขัดกับลวดลายเลยก็ว่าได้เพราะหลายคนต่างว่ากันว่าแมวสายพันธุ์นี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แมวที่มีนิสัยน่ารักไม่เบาเลยทีเดียว

• เอ็กโซติก ชอร์ตแฮร์ (Exotic Shorthair)

เอ็กโซติก ชอร์ตแฮร์ สำหรับผู้เขียนแล้วขอยกน้องให้เป็น แมวน่ารักที่สุดในโลก ไปเลยค่ะ เพราะน้องแมวสายพันธุ์นี้มีขนาดลำตัวที่เล็ก ขาสั้น ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเล่นกับเด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก เอ็กโซติก ชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่ถูกผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างอเมริกัน ช็อตแฮร์กับเปอร์เซียขนยาวจึงทำให้แมวสายพันธุ์นี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแมวสองสายพันธุ์นี้อยู่ในตัวนั่นเอง

• แมวสฟิงซ์ (Sphynx)

แมวสฟิงซ์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากน้องนับว่าเป็นสายพันธุ์แมวที่มีเอกลักษณ์มากที่สุด เราเชื่อว่าใครได้เห็นเป็นครั้งแรกจะต้องจดจำได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญคือหากใครที่ได้ลองสัมผัสจะรู้ว่านิสัยของน้องน่ารักมาก ๆ

ราคาของน้องแมวแต่ละสายพันธุ์ ที่มีเงินหลักพันธุ์ก็สามารถเป็นทาสได้แล้ว

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวน่ารัก แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมงบสำหรับซื้อเจ้านาย (น้องแมว) แต่ละสายพันธุ์เท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงได้หาข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับบรรดาทาสทั้งหลายแล้ว โดย แมวน่ารักราคาถูก นั้นก็มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่ง 5 สายพันธุ์ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้มี แมวน่ารักราคา ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว โดยราคาน้องแมวแต่ละสายพันธุ์มีดังนี้

• แมวบริติช ชอร์ตแฮร์

ราคา: 10,000 – 60,000 บาท

• แมวเปอร์เซีย

ราคา: หน้าตุ๊กตา ราคา 1,000 – 8,000 บาท / หน้าบี้ ราคา 10,000 – 100,000 บาท

• อเมริกัน ชอร์ตแฮร์

ราคา: 2,500 – 40,000 บาท

• เอ็กโซติก ชอร์ตแฮร์

ราคา: 3,000 – 80,000 บาท

• แมวสฟิงซ์

ราคา: 10,000 – 100,000 บาท

บทสรุป

เราเชื่อว่าในสายตาของแต่ละคน แมวน่ารัก นั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับแมวทั้ง 5 สายพันธุ์ที่เรานำมายกตัวอย่างให้ทุกคนได้ดูในวันนี้เรานำมาจากความนิยมในการเลือกเลี้ยง ซึ่งสายพันธุ์แมวต่าง ๆ เหล่านั้นนับว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้

แมวไทย ที่มีมาตั้งแต่โบราณนั้นมีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน ที่สำคัญคือยังมีชื่อเสียงและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์แมวไทย รวมไปถึงราคาซื้อขาย ซึ่งจะน่าสนใจขนาดไหน เราไปดูพร้อมกันเลย

แมวไทย 3 พันธุ์ที่รู้จักไปทั่วโลก ที่สำคัญราคาแพงไม่แพ้แมวต่างประเทศ

  แมวไทย นั้นต่างเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งคนไทยเราอาจจะไม่ทราบว่าในต่างประเทศนั้นมีราคาที่สูงเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ 3 สายพันธุ์ แมวไทยโบราณ รวมไปถึงราคาของน้องแมวแต่ละสายพันธุ์ โดยข้อมูลต่าง ๆ มีดังนี้

• แมววิเชียรมาศ (Siamese Cat)

แมววิเชียรมาศ นับว่าเป็นหนึ่งใน แมวมงคล ที่นับว่าเป็นตัวแทนของแมวไทยเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะของแมวชนิดนี้คือมีขนสั้นสีขาว พร้อมกับแต้มสีน้ำตาลเข้มที่จะเป็นแต้มบริเวณใบหน้า ใบหู เท้าทั้ง 4 เท้ารวมไปถึงหาง นอกจากนี้ยังมีลำตัว และที่เรียวยาวเป็นเอกลักษณ์

ราคา: 1,000 – 200,000 บาท (ราคาในไทยและต่างประเทศ)

• แมวขาวมณี

ว่ากันว่าแมวสายพันธุ์น่าจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงยุครัตนโกสินทร์ แต่ความนิยมของแมวสายพันธุ์นี้ก็เรียกว่าไม่แพ้แมวไทยโบราณสายพันธุ์อื่น ๆ โดย แมวไทยขาวมณี จะมีลักษณะเด่นคือมีขนสีขาวทั้งตัว ไม่มีสีอื่นแซม จมูกมีสีชมพูสวย นัยน์ตาสีฟ้า หรือสีเหลืองอำพัน ซึ่งบางตัวจะมีตา 2 สีในตัวเดียว ซึ่งนับว่าเป็นความพิเศษเฉพาะของแมวสายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้

ราคา: 2,500 – 9,900 บาท (ราคาในไทย)

• แมวมาเลศ หรือ แมวสีสวาด

เราเชื่อว่าหากหลาย ๆ คนได้เห็นแมวชนิดนี้แล้วอาจจะต้องคิดว่าเป็นน้องแมวบริติช ชอร์ตแฮร์แน่นอน โดยแมวสีสวาดจะเป็นแมวที่มีสีสวาด (silver blue) ทั้งตัว ซึ่งนับว่าเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์ หัวมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ นอกจากนี้นัยน์ตาจะมีทั้งสีเขียว หรือสีเหลืองอำพัน นอกจากนี้เมื่อช่วงวัยเปลี่ยนจากลูกแมวเป็นแมวโตเต็มวัย ตาก็จะเปลี่ยนจากสีหนึ่ง เป็นสีหนึ่ง

ราคา: 2,500 – 250,000 บาท (ราคาในไทยและต่างประเทศ)

ข้อดีของการเลี้ยงแมวสายพันธุ์ไทย

การเลี้ยงสัตว์ หรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็ตามหากเป็นสัตว์ท้องถิ่นนอกจากจะเป็นผลดีต่อผู้เลี้ยงแล้ว ยังเป็นผลดีต่อสัตว์เลี้ยงของเราด้วย การเลี้ยงแมวไทย ก็เช่นกัน เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในท้องถิ่นจะทำให้สัตว์ไม่ต้องปรับตัวมากนัก เนื่องจากสภาพอากาศ อาหาร และสิ่งแวดล้อมจะเหมาะสมกับแมวของเรามากกว่าการนำเข้าสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงในไทย และที่สำคัญแมวไทยราคา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากนัก (กรณีที่ซื้อขายในไทย)  อีกทั้งยัง แมวไทยมงคล ให้คนที่เป็นสายมูสามารถเลือกเลี้ยงเพื่อเสริมสิริมงคลอีกหลายสายพันธุ์อีกด้วย

บทสรุป

   เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแมวไทย ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะเห็นได้ว่าแมวไทยนั้นมีสายพันธุ์ที่ทั้งสวยและเป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้แมวสายพันธุ์นำเข้า อีกทั้งบางสายพันธุ์ยังมีราคาสูงถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครที่อยากเลี้ยงแมว และกำลังมองหาอยู่ว่าควรเลี้ยงสายพันธุ์อะไรดี แมวไทยก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว

“แมว” นับว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์ป่าที่กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักของมนุษย์ ซึ่งสายพันธุ์แมวที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ มักจะมีการพัฒนาสายพันธุ์ หรือมีต้นกำเนิดมาจาก แมวป่า ซึ่งแมวป่าหลาย ๆ ชนิดที่มีการเลี้ยงอย่างถูกกฎหมายในปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะมีความสวยเป็นเอกลักษณ์ หายาก และที่สำคัญยังมีราคาที่สูงอีกด้วย และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแมวป่าอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่จัดได้ว่าเป็นแมวที่มีราคาสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้

มาทำความรู้จักกับ แมวป่า ที่หลายมาเป็นแมวระดับเซเลบ

          อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า แมวหลาย ๆ สายพันธุ์ที่เราพบเห็น หรือนิยมเลี้ยงในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดมาจากแมวป่า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คาราคัล หรือ แมวป่าคาราคัล ที่เราเชื่อว่าใครที่เห็นครั้งแรกอาจจะคิดว่าแมวตัวนี้ต้องเพิ่งออกจากทุ่งสะวันนามาอย่างแน่นอน โดยแมวชนิดจัดว่าเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 กิโลกรัม และมีส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร

วิธีเลี้ยงคาราคัล

          สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวชนิดนี้ก่อนอื่นเราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสายพันธุ์ และลักษณะนิสัยของแมวชนิดนี้ให้ดีเสียก่อน เนื่องจากแมวชนิดนี้เป็นแมวที่ค่อนข้างที่จะสัญชาตญาณนักล่าสูง ดังนั้นการกินเนื้อสัตว์จากที่มันล่าได้จึงเป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้นการให้อาหารบรีฟจึงเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อย โดยควรให้วันละ 2 ครั้ง เช้า และเย็น และคุณอาจจะให้นม หรืออาหารเสริมสำหรับแมว เพิ่มเข้าไปได้ด้วย แต่ทั้งนี้หากคุณซื้อมาจากฟาร์มจะแนะนำว่าแมวของคุณควรกินอะไรจึงจะเหมาะสมที่สุด

แมวป่าราคาหลักแสน แถมยังหาซื้อไม่ง่ายอย่างที่คิด       

    มาถึงในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับราคา และฟาร์ม หรือร้านขายแมวป่า สายพันธุ์นี้กันแล้วนะคะ สำหรับใครที่อยากเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้อาจจะต้องมีฐานะทางการเงินที่คล่องตัวไม่น้อย เนื่องจาก แมวป่าคาราคัล ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 680,000 บาทเลยทีเดียว

ฟาร์มคาราคัล

          สำหรับฟาร์มเพาะเลี้ยงแมวป่าชนิดนี้ในไทยค่อนข้างที่จะมีอยู่น้อยมากพอสมควร เนื่องจากการที่จะเลี้ยง หรือเพาะเลี้ยงแมวชนิดนี้ค่อนข้างที่จะต้องมีความรู้ และสำหรับคนที่มีความชอบเฉพาะพอสมควร ซึ่งบางคนอาจจะนำเข้าแมวชนิดนี้จากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง แต่หากใครที่อยากซื้อแมวจากฟาร์มในไทยวันนี้เรามี 1 ฟาร์มเพาะเลี้ยงคาราคัลมาแนะนำค่ะ โดยฟาร์มมีชื่อว่า ABT.Bengals-Absolute Bengal Thailand ซึ่งเป็นฟาร์มที่เพาะเลี้ยงแมวหายากหลายสายพันธุ์รวมถึงคาราคัลตัวนี้ด้วย โดยทางฟาร์มการันตีในเรื่องของคุณภาพ และที่สำคัญถูกกฎหมายในทุกกระบวนการ

บทสรุป

          สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวป่า ชนิดนี้ นอกจากคุณจะมีกำลังในการซื้อแล้ว คุณยังควรที่จะศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแมวชนิดนี้ให้ดีเสียก่อน และควรรู้ด้วยว่าแมวชนิดนี้จะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ แต่ความน่ารักของแมวชนิดนี้คือเป็นแมวที่รักเจ้าของเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเข้าจึงสามารถเป็นผู้พิทักษ์คุณได้ดีเลยทีเดียว

หากพูดถึงแมวตาโต ขนยาว หลายคนคงต้องนึกถึงแมวเปอร์เซีย เนื่องจากเป็นสายพันธุ์แมวที่คนไทยเรานิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับน้องแมวสายพันธุ์หายากอย่าง แมวไซบีเรียน ซึ่งเป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองหนาว และที่สำคัญเหมาะกับคนที่มีอาการแพ้ขนแมว โดยข้อมูลของ แมวไซบีเรียน จะมีความน่าสนใจขนาดไหน เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ประวัติ และลักษณะนิสัยของแมวไซบีเรียน

แมวไซบีเรียนเป็นแมวที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งคล้ายกับสุนัขแมวไซบีเรียน ที่จะมีขนหนา ยาว และฟู เนื่องจากสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้มีถึงกำเนิดอยู่ในเขตเดียวกัน โดยประวัติของแมวไซบีเรียนนั้น ก็อาจจะไม่ได้ดูผาดโผน หรือน่าประหลาดใจสักเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากแมวไซบีเรียน หรือแมวไซบีเรียนฟอเรสนั้น จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์ และมีถิ่นกำเนิดในแถบไซบีเรีย ซึ่งเป็นประเทศรัสเซียในปัจจุบัน

โดยแมวชนิดนี้เป็นเพียงแมวป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในท้องถิ่นเท่านั้น แต่มีความพิเศษคือเป็นแมวสําหรับคนเป็นภูมิแพ้ โดยในช่วงปี 1980 แมวชนิดนี้ได้ถูกนำไปเลี้ยงในยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดินแดนที่ผู้คนทั้งชนชั้นสูงและชนชั้นทั่วไปจะนิยมเลี้ยงแมวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ในส่วนของลักษณะนิสัยแมวไซบีเรียน นิสัย ร่าเริง, ฉลาด, ขี้เล่น, ขี้อ้อน และที่สำคัญเข้ากับเด็กๆ ได้ค่อนข้างดี ซึ่งหากใครที่เลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้ให้ห้องหรือบ้านที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือร้อน ขนของน้องจะไม่หนาฟูเหมือนที่เราเห็นในภาพ เนื่องจากเป็นสัญชาตญาณของสัตว์ที่ขนจะยาว และหนาเป็นพิเศษเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว และขนจะสั้น และบางลงเมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้นนั่นเอง

ราคาและฟาร์มเพาะเลี้ยงแมวไซบีเรียน

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงน้องแมวไซบีเรียน และไม่ทราบว่า ในไทยจะมีฟาร์มเพาะเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้ หรือไม่ และราคาของแมวสายพันธุ์นี้จะอยู่ที่ประมาณเท่าไร โดยข้อมูลทั้ง 2 อย่างนี้ค่อนข้างสำคัญต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสัตว์เลี้ยงสักตัวเป็นอย่างยิ่ง          

โดยแมวไซบีเรียนฟอเรส ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 100,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารรับรองทั้งของแมว และฟาร์ม ซึ่ง Siberian cat ฟาร์มที่เราอยากแนะนำนั้นคือ Aisawan Cattery (Facebook: แมวเหมียวพันธุ์ไซบีเรียน) โดยราคาของแมวในฟาร์มบางตัวอาจจะมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงเท่ากับที่เราให้ข้อมูลไว้ข้างต้น ดังนั้นใครที่อยากซื้อน้องแมวสายพันธุ์นี้ก็สามารถลองสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมจากทางฟาร์ม หรือสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้องแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเราได้เลย

หากพูดถึง สายพันธุ์แมว ที่คนไทยเรานิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นแมวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นแมวที่สวยเป็นเอกลักษณ์ น่ารัก และที่สำคัญคือหาฟาร์มที่เพาะเลี้ยงได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งความพิเศษของแมวเปอร์เซียไม่ได้มีเพียงความน่ารักเท่านั้น และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับน้อง แมวเปอร์เซีย ตัวนี้มากขึ้น โดยจะมีข้อมูลที่น่าสนใจขนาดไหน เราไปดูกันเลย

ประวัติความเป็นมาของ แมวเปอร์เซีย

สำหรับความนิยมในการเลี้ยงแมวเปอร์เซียในไทยนั้น นับว่าเป็นแมวที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง แต่จะมีใครรู้หรือไม่สำหรับข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแมวเปอร์เซีย ว่ากว่าจะเป็นแมวที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สายพันธุ์แมว นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับทุกคนแล้ว

ประวัติของแมวเปอร์เซีย

เป็นแมวที่ขึ้นว่าถิ่นกำเนิดนั้นมาจากแถบเปอร์เซีย ซึ่งในปัจจุบันถือประเทศอีหร่าน แต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้มีการตั้งชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการของแมวสายพันธุ์นี้ จนในปี 1620 ได้พบบันทึกเกี่ยวกับการนำเข้าแมวเปอร์เซียไปยังประเทศอิตาลี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มชนชั้นสูง และกลุ่มคนทั่วไปในยุโรป และกระทั่งปี 1900 แมวเปอร์เซียได้ถูกนำไปขยายพันธุ์ต่อภายในสหรัฐอเมริกา และได้มีการตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า เปอร์เซีย ตามถิ่นกำเนิดของมัน

โดยลักษณะนิสัยของเปอร์เซีย เป็นแมวที่ไม่ค่อยซุกซน ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ก็มีอารมณ์ขี้อ้อนอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญ เปอร์เซียยังเป็นแมวที่ค่อนข้างจะเป็นมิตร และเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี ดังนั้นหากใครที่มีเด็ก ๆ อยู่ในบ้านและอยากเลี้ยงแมวสักตัว เปอร์เซียก็เป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยากแนะนำเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ฟาร์มและราคาของแมวเปอร์เซีย ในเมืองไทย

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวเปอร์เซีย หรือลูกแมวเปอร์เซีย วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟาร์มแมวเปอร์เซีย และราคาแมวเปอร์เซียมาให้กับทุกคนแล้วค่ะ โดยฟาร์ม สายพันธุ์แมวเปอร์เซีย ในกรุงเทพนั้นมีอยู่หลายฟาร์มด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Pinkpawpal Pure Persian Cattery, Numnimo ฟาร์มแมวเปอร์เซีย หรือฟาร์มแมว Persian Academy เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟาร์มอื่น ๆ มากมายทั่วประเทศ ซึ่งราคาของแมวแต่ละตัวก็ขึ้นอยู่กับเกรดของแมว แคะมาตรฐานของฟาร์มที่เพาะเลี้ยง โดยอาจจะมีราคาตั้งแต่ 1,000 – 100,000 บาทเลยทีเดียวค่ะ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีขนยาว และหนา ดังนั้นเรื่องของการดูแลความสะอาดให้กับน้องแมวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นอาจจะทำให้น้องแมวเปอร์เซียของคุณเกิดเชื้อราแมวตามตัวได้ ซึ่งก็จะส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวและผู้เลี้ยงได้ ดังนั้นจึงควรจะใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ

แมวเมนคูน เป็น สายพันธุ์แมว ที่มีขนาดใหญ่ ขนยาว และที่สำคัญมีนิสัยที่ค่อนข้างคล้ายสุนัข จนไม่ว่าใคร ๆ ที่ได้ใกล้ชิด หรือได้ลองเลี้ยงน้องแมวเมนคูนเป็นต้องตกหลุมรักนเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าเมนคูนตัวนี้มากขึ้น ทั้งเรื่องประวัติ นิสัย ราคา และฟาร์มที่เพาะเลี้ยงในไทย เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่อยากทำความรู้จักกับแมวแมนคูนตัวนี้ได้รู้จักและกับมันมากยิ่งขึ้น

ประวัติความเป็นมาของ แมวเมนคูน

เราเชื่อวว่า หากหลาย ๆ คงอาจจะคุณหน้า คุ้นตากันดีกับเจ้าแมวเมนคูน เนื่องจาก สายพันธุ์แมว นี้ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ ในเรื่องของรูปร่างและใบหน้า แต่มีใครจะทราบหรือไม่ว่า ประวัติของเมนคูนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้กับทุกคนแล้วค่ะ

เมนคูนเป็นแมวขนยาวชนิดเดียวทีได้รับการยอมรับว่าเป็นแมวพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา (America’ s Cat) เนื่องจากเมนคูนเป็นแมวที่ถือกำเนิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้าน และแมวท้องถิ่นในเมือง   นิวอิงแลนด์ (New England) และในปี 1900 เมนคูนก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบยุโรป ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อความนิยมของแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ในส่วนของนิสัยของแมวเมนคูน เมนคูนเป็นแมวที่ค่อนข้างจะเป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่าย คล้ายกับสุนัข อีกทั้งยังฉลาด และ ชื่นชอบการเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งนิสัยต่าง ๆ เหล่านี้นับว่าเป็นความพิเศษของแมวสายพันธุ์นี้ เนื่องจากลักษณะนิสัยเช่นนี้เราจะไม่ได้พบเจอกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เท่าไรนัก

ราคาและฟาร์มเพาะเลี้ยงแมวเมนคูน

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวเมนคูน และกำลังตามหาข้อมูลเกี่ยวกับราคาและฟาร์มของ สายพันธุ์แมว เพื่อนำไปศึกษาก่อนการตัดสินใจในการเลือกซื้อน้องแมวมาเลี้ยง วันนี้เราจึงได้ค้นหาข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับเพื่อนๆ ทุกคนแล้วค่ะ

โดยฟาร์มแมวเมนคูนในไทยนั้นมีอยู่หลายฟาร์มด้วยกัน เช่น felisplanet ฟาร์มแมวเมนคูน (Fairycoonz Maine Coon Cattery ฟาร์มแมวเมนคูน), Giant Wonder Cattery และ ฟาร์มแมวเมนคูน สายพันธุ์แท้ Winsochacoon เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟาร์มเมนคูนในต่างประเทศเช่นกัน แต่เมื่อตรวจสอบราคาแล้ว พบว่ามีราคาที่ไม่ต่างจากในไทยสักเท่าไร โดยในส่วนแมวเมนคูน ราคา 2564 อยู่ที่ประมาณ 15,000 – 100,000 บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้น ซึ่งเราแนะนำว่า หากซื้อในประเทศไทยจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ค่าทำเอกสาร หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้มากพอสมควร ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ลองหาฟาร์มที่ได้มาตรฐานในเมืองไทยก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย

หากพูดถึงแมวแปลกที่เหล่าดารา เซเลบบิตี้ และคนทั่วไปนิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น แมวสฟิงซ์ (Sphynx) เนื่องจากแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่มีรูปร่างหน้าตา และลักษณะทั่วไปที่ค่อนข้างแปลก และเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่ว่าใครที่เป็นต้องจดจำน้องแมวสายพันธุ์นี้ได้อย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแมวสฟิงซ์ (Sphynx) ตัวนี้มากขึ้น เพื่อให้ทุกคนที่กำลังมองหาน้องแมวที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ไปลองหาน้องแมวสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงสักตัว

ประวัติความเป็นมา และลักษณะทั่วไปของแมวสฟิงซ์ (Sphynx)

หากพูดแมวสฟิงซ์ (Sphynx) หลายคนคงเข้าใจว่าแมวสายพันธุ์นี้ อาจจะเป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดมาจากอียิปต์ แต่ประวัติของแมวสฟิงซ์ (Sphynx) ที่แท้จริงนั้นมีถิ่นกำเนิดในแคนาดา เมื่อราว ๆ ปี 1966 ซึ่งเป็นลูกแมวบ้านตัวหนึ่งที่คลอดออกมา และเจ้าของพบว่าลูกแมวตัวนั้นไร้ขน ซึ่งต่อมาก็พบว่า นั่นคือการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ และใน 30 ปีต่อมาเหล่านักเพาะพันธุ์ทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป พยายามเพาะพันธุ์แมวสฟิงซ์ที่ได้พ่อและแม่พันธุ์ที่แข็งแรง เพื่อให้ได้แมวรุ่นลูกไม่เป็นหมันนั้นเอง 

ลักษณะเฉพาะของสฟิงซ์ ที่ไม่สามารถพบในสุนัข หรือแมวที่มีขน คือแมวสายพันธุ์นี้จะมีต่อมเหงื่อค่อนข้างมาก คล้ายกับผิวหนังของคน ดังนั้น เหงื่อของมันจึงระบายออกทางผิวหนัง และจะไม่มีอาการหอบ หรือต้องอ้าปากเพื่อระบายความร้อน เหมือนแมวหรือสุนัขทั่ว ๆ ไป 

นอกจากนี้ในส่วนของนิสัย แมวสฟิงซ์ นิสัยค่อนข้างติดเจ้าของ แต่เต็มไปด้วยความฉลาด, ร่าเริง และขี้เล่น แต่น้องแมวบางตัวอาจจะมีความขี้อ้อน หรือชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ซึ่งน้องแมวสายพันธุ์นี้สามารถเป็นพลังบวกให้กับเจ้าของได้ ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะบอกว่านิสัยของเขาค่อนข้างสวนทางกับรูปร่างหน้าตาของเขาไม่น้อย แต่เราต้องขอบอกว่าหากใครที่ได้ลองได้ใกล้ชิดกับน้องแมวสายพันธุ์นี้ ต้องระวังหลงเสน่ห์ความน่ารักของน้อง ๆ นะคะ 

ราคาและฟาร์มเพาะเลี้ยง แมวสฟิงซ์ (Sphynx) 

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวสฟิงซ์ (Sphynx) แต่ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับราคา หรือฟาร์มของน้องแมวสายพันธุ์นี้ ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้กับคุณแล้วค่ะ โดยราคาแมวสฟิงซ์ 2021 มีราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 104,000 บาทเลยทีเดียวค่ะ 

นอกจากนี้ในส่วนของฟาร์มของสฟิงซ์ในไทยนั้นมีหลายฟาร์มด้วยกัน แต่ฟาร์มที่เราอยากแนะนำคือ Pornpinit Cattery (Facebook: Sphynx Cats Thailand แมวสฟิงซ์ แมวไม่มีขน ) โดยฟาร์มนี้จะเป็นฟาร์มที่มีน้องสฟิงซ์หลายสีให้เลือก รวมไปถึงแมวสฟิงซ์ สีขาว ซึ่งเป็นสีที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะชื่นชอบไม่น้อย 

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบแมวที่มีขนสวยและเป็นเอกลักษณ์ แมวเบงกอล อาจจะเป็นแมวอีกสายพันธุ์หนึ่งที่คุณกำลังตามหา เนื่องจาก สายพันธุ์แมว นี้เป็นแมวที่มีลวดลายคล้ายเสือ ซึ่งเราเชื่อว่าเมื่อคุณได้เห็นเป็นต้องสะดุดตากับลวดลายของมันอย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแมวเบงกอลตัวนี้มากขึ้น ซึ่งจะมีความน่าสนใจขนาดไหน เราไปดูพร้อมกันเลย

ประวัติ และข้อมูลที่น่าสนใจของ แมวเบงกอล

แมวเบงกอล เป็น สายพันธุ์แมว ที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Jean Mills เป็นผู้ที่ริเริ่มและทำการเพาะพันธุ์แมวเบงกอลขึ้นเป็นคนแรก ซึ่งประวัติของแมวเบงกอล เป็นแมวที่ Jean Mills ใช้เวลามากกว่า 20 ปี กว่าจะได้แมวที่มีความสวยงามเช่นนี้ ในการเพาะพันธุ์ ซึ่งเบงกอลนั้น เป็นแมวที่ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ระหว่าง แมวบ้าน และ แมวดาว (Asian Leopard Cat) จนได้แมวเบงกอล โดยเรียกตามชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Felis Bengalensis นั่นเอง

โดยลักษณะนิสัยของเบงกอล จะเป็นแมวที่มีสัญชาตญาณความเป็นนักล่าในตัวค่อนข้างสูง มีความว่องไว พลังเยอะ ชอบเล่น ชอบปีนป่าย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่อาจจะได้จากแมวดาว (Asian Leopard Cat) ที่สำคัญยังมีทั้งความฉลาด ช่างสังเกตอีกด้วย

นอกจากนี้ แมวเบงกอลบางตัวอาจจะมีนิสัยค่อนข้างที่จะดุ เนื่องจากเบงกอลนั้นยังนับว่าเป็นสัตว์ป่า อาจจะมีความดุร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวเป็นเรื่องปกติ แต่หากผู้เลี้ยงนั้น ฝึกฝนและเลี้ยงอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้น้องแมวเบงกอลนั้น เป็นแมวที่น่ารัก และเข้ากับคนได้ดี ไม่แพ้แมวสายพันธุ์อื่น ๆ เลย

ราคา และฟาร์มแมวเบงกอล ในเมืองไทย

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวเบงกอลสักตัว แต่ยังไม่ทราบว่าจะไปหาฟาร์มหรือข้อมูลเกี่ยวกับราคาของแมวเบงกอลได้จากที่ไหน วันนี้เราได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับทาสแมวทุกคนแล้วค่ะ โดยฟาร์มแมวเบงกอล ในไทยนั้นมีหลายฟาร์มด้วยกัน เช่น ONCE Bengals ฟาร์มแมว เบงกอล และ SILVERSQUAD เป็นต้น  โดยแมวเบงกอล ราคา 2564 จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 150,000 บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้น แต่หากพบการประกาศขายแมวที่มีราคาอยู่ในหลักพันต้น ๆ ซึ่งเห็นได้เป็นจำนวนมาก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจจะไม่ใช่แมวเบงกอลสายพันธุ์แท้ เนื่องจากสายพันธุ์แมว แท้นั้น จะเป็นแมวที่มีราคาแพงติดอันดับโลก ดังนั้นจึงเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่แมวสายพันธุ์นี้จะมีราคาอยู่ในหลักพันบาทไทยนั่นเองค่ะ นอกจากนี้การตรวจสอบข้อมูลของฟาร์มที่เพาะเลี้ยงก็เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากฟาร์มแต่ละฟาร์มก็จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่ฟาร์มเพาะเลี้ยงนั้น ๆ มีใบรับรองจะดีที่สุด