เดือน: พฤศจิกายน 2021

นกหงส์หยก หรือ PARAKEETS ขึ้นชื่อว่าเป็นนกที่มีสีสันสวยงาม เพราะนกหงส์หยกนั้นมีสีสันหลากสีไม่ว่าจะเป็น สีฟ้า , สีเขียว , หรือสีเหลือง โดยนกหงส์หยกสีหายากที่สุดก็คือ สีม่วงและสีขาวนั่นเอง ซึ่งนกหงส์หยกมีที่มาและถิ่นกำเนิด จากทุ่งหญ้าที่เป็นแถบป่าเปิดในประเทศออสเตรเลีย นกหงส์หยกหรือ PARAKEETS นั้นจะมีลักษณะนิสัย ขี้เล่น เลี้ยงเชื่องและหมกมุ่นเกี่ยวกับการเกี้ยวพาราสี แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความสามารถพิเศษของมันเลยก็คือ การหลบหนีศัตรูด้วยการทิ้งตัวลงมาคล้ายกับก้อนหินนั่นเอง

นกหงส์หยกมีกี่สายพันธุ์ เลี้ยงยากหรือไม่

เคยสงสัยไหมคะว่านกหงส์หยกหรือ PARAKEETS ที่เรารู้จักกันนั้นมีกี่สายพันธุ์ ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องนั่นก็คือ 2 สายพันธุ์ นั่นก็คือ นกหงส์หยกสายพันธุ์ฮอลแลนด์และนกหงส์หยกสายพันธุ์อังกฤษ โดนนกหงส์หยกสายพันธุ์ฮอลแลนด์ เป็นนกหงส์หยกดั้งเดิมที่คนส่วนใหญ่มักเลี้ยงไว้ดูเล่น จะมีขนาดตัวที่เล็กและมีสีสันสวยงาม ส่วนนกหงส์หยกสายพันธุ์อังกฤษจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า มีขนฟูและสีสันสวย แต่ทั้งสองสายพันธุ์นี้มีวิธีการดูเพศที่เหมือนกันคือ ‘จมูก’ โดยตัวผู้จะมีจมูกสีชมพูและตัวเมียจะมีจมูกสีขาวนั่นเอง

ซึ่ง ราคาของนกหงส์หยก ที่เป็นลูกป้อนจะเริ่มที่ประมาณ 500 บาท และหากเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จะอยู่ที่ประมาณ 700 บาท นอกจาก ราคาของนกหงส์หยก หรือ PARAKEETS ข้างต้นที่กล่าวไปแล้วก็ยังมี นกหงส์หยกราคา 100 บาท สำหรับผู้ที่มีงบน้อยให้เลือกซื้ออีกด้วย ซึ่ง อาหารของนกหงส์หยก ที่ชื่นชอบที่สุดนั่นก็คือเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ แอปเปิ้ลหรือผักกาดหอมนั่นเอง

นกหงส์หยก นิสัยดี น่าเลี้ยง หาซื้อง่ายปลอดภัยชัวร์

เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆคนคงจะเริ่มสนใจรับเจ้านกหงส์หยกหรือ PARAKEETS นี้ไปเลี้ยงดูกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่านกหงส์หยกนั้นมีลักษณะนิสัยที่ขี้เล่นและเชื่องมาก ๆ แต่หากพวกมันมีอาการแปลก ๆ เช่น มีอึติดก้น หรือขย้อนอาหารออกมา อาการแบบนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หากนกหงส์หยกหรือ PARAKEETS ที่ท่านกำลังเลี้ยงมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์และผู้รู้เพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ

นกเลิฟเบิร์ด หรือ Love bird เป็นนกแก้วปากขอขนาดเล็กที่มีลำตัวยาวประมาณ 5-6 นิ้ว มีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี มีสีสันสดใส โดย นกเลิฟเบิร์ดมีที่มาและถิ่นกำเนิด อยู่ที่ทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออกและเกาะมาดากัสการ์ ปกติจะอยู่รวมกันเป็นฝูงแต่เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ก็จะเลือกคู่และอยู่กับคู่ของตนเองจนตาย โดยชื่อเดิมที่มาจากชาวแอฟริกันมีชื่อว่า Little parrot แต่ด้วยเจ้า นกเลิฟเบิร์ดมีลักษณะนิสัย ที่รักเดียวใจเดียว อยู่กับคู่ดูแลกันและกันจนสิ้นอายุขัยนั้น จึงได้เปลี่ยนจาก Little parrot เป็นนกเลิฟเบิร์ด หรือ Lovebird ที่ใช้มาจนจวบปัจจุบันนั่นเองค่ะ

นกเลิฟเบิร์ดมีกี่สายพันธุ์และเลี้ยงยังไงให้ถูกวิธี

นกเลิฟเบิร์ด หรือLovebirdจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือมีขอบตากับไม่มีขอบตาทั้งสองชนิดนี้ก็จะแยกสายพันธุ์อีกรวมกันได้ 9 สายพันธุ์หลากหลายสีกันไป โดยแต่แรกนกเลิฟเบิร์ด หรือLovebird จะมีแค่สีเขียวเป็นส่วนมากแต่ด้วยที่มนุษย์เรานำมาขยายพันธุ์ต่างๆทำให้นกเลิฟเบิรดมีสีสันที่หลากหลายขึ้น หลายคนจึงสนใจที่จะเลี้ยงมากขึ้น ซึ่งนกเลิฟเบิร์ดมีราคาหลากหลายหลักร้อยถึงหลักหมื่น หากใครงบน้อยอยากหานกเลิฟเบิร์ดราคาไม่เกิน 500 บาท ก็สามารถหาซื้อได้ โดยนกเลิฟเบิร์ดในราคา 500 ส่วนใหญ่จะเป็นลูกป้อนค่ะ

วิธีการดูแลและขยายพันธุ์

นกเลิฟเบิร์ดสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยนกเลิฟเบิร์ดออกไข่ได้ 4-5 ฟอง ต่อ 1 คู่และขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของตัวนกเลิฟเบิร์ดด้วย การให้อาหารก็เหมือนนกทั่วไปซึ่งนกเลิฟเบิร์ดชอบอาหารที่เป็นธัญพืชต่างๆ น้ำอาจเป็นน้ำกรองหรือน้ำก๊อกที่กลอกทิ้วไว้อย่างน้อยสองวันถึงจะให้นกกินได้และควรหาซื้อวิตามินต่างๆให้นกเลิฟเบิร์ด หรือLovebird กินเพื่อร่างกายที่แข็งแรง ควรหมั่นรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อของกรงและตัวนกไม่ให้มีขี้ติดที่ตูดนก สังเกตดวงตาร่างกายและพฤติกรรมนกว่าเสี่ยงที่จะเป็นโรคอะไรหรือเปล่าเช่น นกเลิฟเบิร์ดขนพองและมีอาการหนาวสั่นนี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้หวัดนกควรพาไปรักษาค่ะ

นกเลิฟเบิร์ด นกตัวเล็กน่ารักขวัญใจคนชอบเลี้ยงนก

เนื่องจากนกเลิฟเบิร์ดมีที่มาและถิ่นกำเนิดที่เป็นแถบอบอุ่นค่อนข้างร้อน คนไทยจึงนิยมเลี้ยงนกเลิฟเบิร์ดหรือ Lovebird และนอกจากจะสามารถเลี้ยงในสภาพอากาศบ้านเราได้อีก นกเลิฟเบิร์ดยังมีลักษณะนิสัยที่น่ารัก ซุกซน ขี้เล่นเหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นแม้นกเลิฟเบิร์ดจะน่ารักน่าเลี้ยงขนาดไหน นิสัยและทักษะต่างๆส่วนหนึ่งของนกเลิฟเบิร์ดก็ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงด้วยว่าฝึกอย่างไรถูกวิธีหรือเปล่า หมั่นรักษาความสะอาด ให้อาหารและดูแลถูกวิธีด้วยหรือไม่ หากรับน้องมาเลี้ยงแล้วควรใส่ใจสุขลักษณะอนามัยของน้องและตนเองด้วยไม่งั้นโรคไข้หวัดนกจะถามหาได้นะคะ

หากพูดถึงแมวตาโต ขนยาว หลายคนคงต้องนึกถึงแมวเปอร์เซีย เนื่องจากเป็นสายพันธุ์แมวที่คนไทยเรานิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับน้องแมวสายพันธุ์หายากอย่าง แมวไซบีเรียน ซึ่งเป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองหนาว และที่สำคัญเหมาะกับคนที่มีอาการแพ้ขนแมว โดยข้อมูลของ แมวไซบีเรียน จะมีความน่าสนใจขนาดไหน เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ประวัติ และลักษณะนิสัยของแมวไซบีเรียน

แมวไซบีเรียนเป็นแมวที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งคล้ายกับสุนัขแมวไซบีเรียน ที่จะมีขนหนา ยาว และฟู เนื่องจากสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้มีถึงกำเนิดอยู่ในเขตเดียวกัน โดยประวัติของแมวไซบีเรียนนั้น ก็อาจจะไม่ได้ดูผาดโผน หรือน่าประหลาดใจสักเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากแมวไซบีเรียน หรือแมวไซบีเรียนฟอเรสนั้น จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์ และมีถิ่นกำเนิดในแถบไซบีเรีย ซึ่งเป็นประเทศรัสเซียในปัจจุบัน

โดยแมวชนิดนี้เป็นเพียงแมวป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในท้องถิ่นเท่านั้น แต่มีความพิเศษคือเป็นแมวสําหรับคนเป็นภูมิแพ้ โดยในช่วงปี 1980 แมวชนิดนี้ได้ถูกนำไปเลี้ยงในยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดินแดนที่ผู้คนทั้งชนชั้นสูงและชนชั้นทั่วไปจะนิยมเลี้ยงแมวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ในส่วนของลักษณะนิสัยแมวไซบีเรียน นิสัย ร่าเริง, ฉลาด, ขี้เล่น, ขี้อ้อน และที่สำคัญเข้ากับเด็กๆ ได้ค่อนข้างดี ซึ่งหากใครที่เลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้ให้ห้องหรือบ้านที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือร้อน ขนของน้องจะไม่หนาฟูเหมือนที่เราเห็นในภาพ เนื่องจากเป็นสัญชาตญาณของสัตว์ที่ขนจะยาว และหนาเป็นพิเศษเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว และขนจะสั้น และบางลงเมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้นนั่นเอง

ราคาและฟาร์มเพาะเลี้ยงแมวไซบีเรียน

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงน้องแมวไซบีเรียน และไม่ทราบว่า ในไทยจะมีฟาร์มเพาะเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์นี้ หรือไม่ และราคาของแมวสายพันธุ์นี้จะอยู่ที่ประมาณเท่าไร โดยข้อมูลทั้ง 2 อย่างนี้ค่อนข้างสำคัญต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสัตว์เลี้ยงสักตัวเป็นอย่างยิ่ง          

โดยแมวไซบีเรียนฟอเรส ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 100,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารรับรองทั้งของแมว และฟาร์ม ซึ่ง Siberian cat ฟาร์มที่เราอยากแนะนำนั้นคือ Aisawan Cattery (Facebook: แมวเหมียวพันธุ์ไซบีเรียน) โดยราคาของแมวในฟาร์มบางตัวอาจจะมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงเท่ากับที่เราให้ข้อมูลไว้ข้างต้น ดังนั้นใครที่อยากซื้อน้องแมวสายพันธุ์นี้ก็สามารถลองสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมจากทางฟาร์ม หรือสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้องแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเราได้เลย

หากพูดถึง สายพันธุ์แมว ที่คนไทยเรานิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นแมวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นแมวที่สวยเป็นเอกลักษณ์ น่ารัก และที่สำคัญคือหาฟาร์มที่เพาะเลี้ยงได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งความพิเศษของแมวเปอร์เซียไม่ได้มีเพียงความน่ารักเท่านั้น และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับน้อง แมวเปอร์เซีย ตัวนี้มากขึ้น โดยจะมีข้อมูลที่น่าสนใจขนาดไหน เราไปดูกันเลย

ประวัติความเป็นมาของ แมวเปอร์เซีย

สำหรับความนิยมในการเลี้ยงแมวเปอร์เซียในไทยนั้น นับว่าเป็นแมวที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง แต่จะมีใครรู้หรือไม่สำหรับข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแมวเปอร์เซีย ว่ากว่าจะเป็นแมวที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สายพันธุ์แมว นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับทุกคนแล้ว

ประวัติของแมวเปอร์เซีย

เป็นแมวที่ขึ้นว่าถิ่นกำเนิดนั้นมาจากแถบเปอร์เซีย ซึ่งในปัจจุบันถือประเทศอีหร่าน แต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้มีการตั้งชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการของแมวสายพันธุ์นี้ จนในปี 1620 ได้พบบันทึกเกี่ยวกับการนำเข้าแมวเปอร์เซียไปยังประเทศอิตาลี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มชนชั้นสูง และกลุ่มคนทั่วไปในยุโรป และกระทั่งปี 1900 แมวเปอร์เซียได้ถูกนำไปขยายพันธุ์ต่อภายในสหรัฐอเมริกา และได้มีการตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า เปอร์เซีย ตามถิ่นกำเนิดของมัน

โดยลักษณะนิสัยของเปอร์เซีย เป็นแมวที่ไม่ค่อยซุกซน ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ก็มีอารมณ์ขี้อ้อนอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญ เปอร์เซียยังเป็นแมวที่ค่อนข้างจะเป็นมิตร และเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี ดังนั้นหากใครที่มีเด็ก ๆ อยู่ในบ้านและอยากเลี้ยงแมวสักตัว เปอร์เซียก็เป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยากแนะนำเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ฟาร์มและราคาของแมวเปอร์เซีย ในเมืองไทย

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวเปอร์เซีย หรือลูกแมวเปอร์เซีย วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟาร์มแมวเปอร์เซีย และราคาแมวเปอร์เซียมาให้กับทุกคนแล้วค่ะ โดยฟาร์ม สายพันธุ์แมวเปอร์เซีย ในกรุงเทพนั้นมีอยู่หลายฟาร์มด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Pinkpawpal Pure Persian Cattery, Numnimo ฟาร์มแมวเปอร์เซีย หรือฟาร์มแมว Persian Academy เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟาร์มอื่น ๆ มากมายทั่วประเทศ ซึ่งราคาของแมวแต่ละตัวก็ขึ้นอยู่กับเกรดของแมว แคะมาตรฐานของฟาร์มที่เพาะเลี้ยง โดยอาจจะมีราคาตั้งแต่ 1,000 – 100,000 บาทเลยทีเดียวค่ะ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีขนยาว และหนา ดังนั้นเรื่องของการดูแลความสะอาดให้กับน้องแมวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นอาจจะทำให้น้องแมวเปอร์เซียของคุณเกิดเชื้อราแมวตามตัวได้ ซึ่งก็จะส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวและผู้เลี้ยงได้ ดังนั้นจึงควรจะใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ

แมวเมนคูน เป็น สายพันธุ์แมว ที่มีขนาดใหญ่ ขนยาว และที่สำคัญมีนิสัยที่ค่อนข้างคล้ายสุนัข จนไม่ว่าใคร ๆ ที่ได้ใกล้ชิด หรือได้ลองเลี้ยงน้องแมวเมนคูนเป็นต้องตกหลุมรักนเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าเมนคูนตัวนี้มากขึ้น ทั้งเรื่องประวัติ นิสัย ราคา และฟาร์มที่เพาะเลี้ยงในไทย เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่อยากทำความรู้จักกับแมวแมนคูนตัวนี้ได้รู้จักและกับมันมากยิ่งขึ้น

ประวัติความเป็นมาของ แมวเมนคูน

เราเชื่อวว่า หากหลาย ๆ คงอาจจะคุณหน้า คุ้นตากันดีกับเจ้าแมวเมนคูน เนื่องจาก สายพันธุ์แมว นี้ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ ในเรื่องของรูปร่างและใบหน้า แต่มีใครจะทราบหรือไม่ว่า ประวัติของเมนคูนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้กับทุกคนแล้วค่ะ

เมนคูนเป็นแมวขนยาวชนิดเดียวทีได้รับการยอมรับว่าเป็นแมวพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา (America’ s Cat) เนื่องจากเมนคูนเป็นแมวที่ถือกำเนิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้าน และแมวท้องถิ่นในเมือง   นิวอิงแลนด์ (New England) และในปี 1900 เมนคูนก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบยุโรป ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อความนิยมของแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ในส่วนของนิสัยของแมวเมนคูน เมนคูนเป็นแมวที่ค่อนข้างจะเป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่าย คล้ายกับสุนัข อีกทั้งยังฉลาด และ ชื่นชอบการเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งนิสัยต่าง ๆ เหล่านี้นับว่าเป็นความพิเศษของแมวสายพันธุ์นี้ เนื่องจากลักษณะนิสัยเช่นนี้เราจะไม่ได้พบเจอกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เท่าไรนัก

ราคาและฟาร์มเพาะเลี้ยงแมวเมนคูน

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงแมวเมนคูน และกำลังตามหาข้อมูลเกี่ยวกับราคาและฟาร์มของ สายพันธุ์แมว เพื่อนำไปศึกษาก่อนการตัดสินใจในการเลือกซื้อน้องแมวมาเลี้ยง วันนี้เราจึงได้ค้นหาข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับเพื่อนๆ ทุกคนแล้วค่ะ

โดยฟาร์มแมวเมนคูนในไทยนั้นมีอยู่หลายฟาร์มด้วยกัน เช่น felisplanet ฟาร์มแมวเมนคูน (Fairycoonz Maine Coon Cattery ฟาร์มแมวเมนคูน), Giant Wonder Cattery และ ฟาร์มแมวเมนคูน สายพันธุ์แท้ Winsochacoon เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟาร์มเมนคูนในต่างประเทศเช่นกัน แต่เมื่อตรวจสอบราคาแล้ว พบว่ามีราคาที่ไม่ต่างจากในไทยสักเท่าไร โดยในส่วนแมวเมนคูน ราคา 2564 อยู่ที่ประมาณ 15,000 – 100,000 บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้น ซึ่งเราแนะนำว่า หากซื้อในประเทศไทยจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ค่าทำเอกสาร หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้มากพอสมควร ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ลองหาฟาร์มที่ได้มาตรฐานในเมืองไทยก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย