หมวดหมู่: Uncategorized

กระรอกสวน เป็นสัตว์ป่าอีกหนึ่งชนิดที่สามารถพบได้ทั่วไปในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยกระรอกสวนนั้นจะมีลักษณะเฉพาะตัวคือสีของเส้นขนที่จะมีสีน้ำตาลปนเขียว และจะมีสีน้ำตาลแดง สีเหลืองนวล หรือสีส้ม อยู่บริเวณส่วนล่างของลำตัว และอาจจะสีเข้มมากในบางส่วน โดยเฉพาะในส่วนของเท่าทั้งสี่เท้าที่จะมีสีที่เข้มกว่าในจุดอื่น ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกระรอกสายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้

กระรอกสวน เลี้ยงง่าย เพียงแค่ต้องรู้ 3 สิ่งนี้

               กระรอกสวนหรือ กระรอกท้องแดง นับว่าเป็นสัตว์ป่าที่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แต่ก็มีหลาย ๆ คนที่ยังสงสัยว่า  หากเลี้ยง กระรอกสวนผิดกฎหมายไหม คำตอบคือ สำหรับกระรอกสวนนั้นไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อของกระรอก 15 สายพันธุ์ที่จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามซื้อ-ขาย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากเลี้ยงกระรอกสวนจึงสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีการขออนุญาต

วิธีเลี้ยงกระรอก

กระรอกสวนวิธีเลี้ยง ที่ไม่ค่อยยากสักเท่าไร แต่สำหรับมือใหม่ในการเลี้ยงสัตว์ป่าการเลี้ยงกระรอกก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไร โดยการเลี้ยงกระรอกสวนมี 3 สิ่งหลัก ๆ ที่คุณต้องรู้ดังนี้

2. อาหารของกระรอก หากเป็นลูกกระรอกควรให้นมเป็นอาหารมื้อหลัก ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นนมแพะจะดีที่สุด แต่หากหาไม่ได้จริง ๆ เราแนะนำให้ใช้เป็นนมถั่วเหลืองแทนได้ แต่ไม่แนะนำให้นมวัวกับกระรอกเป็นเด็ดขาด เนื่องจากนมวัวมักจะทำให้กระรอกเกิดอาการท้องอืด และท้องเสียนั่นเอง และเมื่อลูกกระรอกมีอายุประมาณ 1 เดือนขึ้นไป เราก็สามารถให้ผลไม้และธัญพืชต่าง ๆ เช่นถั่ว หรืออัลมอลล์รวมไปถึงการเสริมอาหารด้วยแมลงตัวเล็ก เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหารที่ไม่มีในผลไม่และถั่วต่าง ๆ นั่นเอง
3. กรง / บ้านของกระรอก การเลี้ยงลูกกระรอกนั้นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้อาหารคือ การให้ความอบอุ่นที่เพียงพอ โดยผู้เลี้ยงจำเป็นต้องทำการกกไฟให้กับน้องด้วยวิธีที่ถูกต้อง รวมไปถึงการทำบ้านหรือกรงให้มีความคล้ายกับธรรมชาติมากที่สุด แต่สำหรับวิธีทำบ้านให้น้องแบบง่าย ๆ เคยคือนำผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดี ไปวางไว้ในกรงเพื่อให้ลูกกระรอกได้ซุกตัว และผู้เลี้ยงยังควรสังเกตอยู่เสมอว่าผ้าผืนนั้นให้ความอบอุ่นที่เพียงพอกับลูกกระรอก
4. พาน้องไปพบแพทย์ และรับวัคซีน การให้วัคซีนและพาสัตว์เลี้ยงของเราไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเลี้ยงกระรอกก็เช่นกัน โดยกระรอกนั้นมีโรคที่สามารถแพร่มายังมนุษย์นั้นหลายโรคด้วยกัน โดยหลัก ๆ แล้วคือ พิษสุนัขบ้า ที่เมื่อเราโดยกระรอกกัดเข้าไปมีความเป็นไปได้สูงที่เราได้รับเชื้อดังกล่าว หากกระรอกของเราไม่ได้รับเชื้อหรือไวรัสที่เป็นอันตรายต่าง ๆ

กระรอกแดงเลี้ยงให้เชื่องได้ แค่ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก

               สำหรับใครที่สงสัยว่ากระรอกสวน มีนิสัยอย่างไง หรือสามารถฝึกได้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่ากระรอกสวน นิสัย ทั่วไปหากไม่ได้รับการฝึกฝนกระรอกก็จะมีความตื่นกลัวคน และไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน เพราะมันจะมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่า และหากนำมาเลี้ยงในตอนที่น้องโตมากแล้ว หรือหากเป็น กระรอกป่า ที่พึ่งจับมากเลี้ยงก็อาจจะทำให้น้องมีความเครียดและอาจจะตายได้ในที่สุด ดังนั้นหากใครที่อยากเลี้ยง หรือฝึกกระรอกให้เชื่องจำเป็นต้องฝึกน้องต้องแต่ยังเด็ก ให้ความรักกับเขากับเขามาก ๆ สัตว์ก็จะเริ่มเชื่อง ให้ความไว้ใจและความรักกับคุณเช่นกัน (เรื่องพื้นฐานของการเลี้ยงสัตว์) แต่หากเป็นกระรอกที่ซื้อมาจากฟาร์มน้องก็ค่อนข้างที่จะมีความเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

ราคาของกระรอกสวน เพียงหลักร้อยก็สามารถรับน้องมาเลี้ยงได้เลย

               กระรอกสวนเป็นสัตว์ที่หาซื้อได้ไม่ยาก และสามารถพบได้ง่าย ดังนั้นจึงมีราคาที่ไม่สูงมากนัก โดยกระรอกสวน 1 ตัวจะมีราคาอยู่ที่ตัวละประมาณ 100 – 600 บาทเท่านั้น ดังนั้นใครที่อยากเลี้ยงน้องมีงบ 1,000 บาทก็สามารถซื้อได้ทั้งพ่อ และแม่พันธุ์เลยทีเดียว

แพะแคระ หนึ่งในสัตว์ที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้กลายมาเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวเล็กกว่าแพะทั่วไป ซึ่งแพะแคระนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละฟาร์มจะเน้นเพาะพันธุ์แพะแคระชนิดใดเป็นหลัก นอกจากนี้ด้วยความที่แพะมีขนาดของตัวที่เล็กลง ก็ทำให้หลาย ๆ คนมองว่าจุดนี้นั้นเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของมัน และทำให้หลายคนเลือกที่จะเลี้ยงแพะแคระเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ไม่ต่างจากน้องหมา หรือแมวเลยก็ว่าได้

แพะแคระ เลี้ยงไม่ยากอย่างที่คิด เพราะน้องสามารถกินได้ทุกอย่าง

แพะแคระ นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ และในไทยก็เริ่มได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในฟาร์ม หรือสวนสัตว์ขนาดเล็กก็เริ่มนิยมนำสัตว์ชนิดนี้มาเลี้ยง และนำมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเช่นเดียวกัน ซึ่งแพะแคระที่นิยมเลี้ยงกันนั้นก็มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น แพะแคระไนจีเรีย และ แพะแคระมินิปิ๊กมี่ เป็นต้น

วิธีเลี้ยงแพะแคระในบ้าน

แพะแคระเลี้ยง ได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน ซึ่งสำหรับใครที่อยากเลี้ยงน้องไว้ในบ้านเราแนะนำให้เลือกเลี้ยงเป็นแพะแคระสายพันธุ์มินิปิ๊กมี่ เนื่องจากเป็นแพะแคระที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยการดูและหลัก ๆ จะมีดังต่อไปนี้

• อาหาร

แพะเป็นสัตว์ที่กินพืชได้หลากหลาย หรือกินแบบแหลกลาญเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับอาหารที่ควรให้เป็นอาหารหลักเราแนะนำให้เป็นหญ้า ซึ่งอาจจะให้เป็นหญ้าแห้ง หรือหญ้าสดก็ได้ แต่หากเป็นการเลี้ยงในบ้านหญ้าแห้งอาจจะเหมาะมากกว่า เพราะด้วยนิสัยของแพะค่อนข้างที่จะกินอาหารได้เละเทะพอสมควร นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถเสริมด้วยธัญพืชต่าง ๆ เช่นข้าวโพดแห้ง ข้าวโอ๊ตแห้ง และ ข้าวบาร์เลย์แห้ง เป็นต้น

• แปรงขนและอาบน้ำ

การแปรงขนและอาบน้ำให้กับแพะแคระนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยการแปรงขนควรแปรงในทุก ๆ วัน วันละ 1 ครั้ง และสำหรับการอาบน้ำนั้นค่อนข้างจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแพะที่เลี้ยงในบ้านจะค่อนข้างใกล้ชิดกับคน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้อาบน้ำให้กับแพะอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

• ฉีดวัคซีนประจำปี

วัคซีนนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญกับสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คน เนื่องจากแบคทีเรีย หรือไวรัสบางชนิดนั้นสามารถแพร่มาถึงคนได้ ดังนั้นใครที่เลี้ยงแพะแคระจึงควรพาน้องไปหาหมอ เพื่อรับวัคซีนและตรวจร่างกายต่าง ๆ จะเป็นผลดีสำหรับทั้งผู้เลี้ยงและแพะของเรา

อยากเป็นเจ้าของน้องแพะแคระตัวเล็กน่ารัก ต้องเตรียมค่าตัวน้องเท่าไร?

               สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเลี้ยงแพะแคระและอยากทราบว่า แพะแคระราคาเท่าไร วันนี้เว็บไซต์ของเราได้หาคำตอบเหล่านั้นมาให้กับทุกคนแล้ว โดย แพะแคระมินิปิ๊กมี่ ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท ซึ่งราคาของตัวผู้จะค่อนข้างถูกกว่าตัวเมีย และสำหรับ แพะแคระไนจีเรียราคา ก็จะอยู่ในเกณฑ์เดียวกันนี้ ดังนั้นเพื่อน ๆ ชื่นชอบแพะแคระสายพันธุ์ไหนก็สามารถหาซื้อมาเลี้ยงได้ตามความชอบเลย

ข้อควรรู้ก่อนซื้อแพะแคระมาเลี้ยง

               แม้ว่าแพะแคระจะมีลักษณะตัวที่เล็กกว่าแพะสายพันธุ์ทั่วไป แต่สำหรับสัญชาตญาณของแพะชนิดนี้ก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างจากแพะสายพันธุ์อื่น ๆ เช่นเรื่องของการชอบอยู่ในที่สูง สำหรับใครที่เคยเห็นคอกแพะจะเห็นได้ว่าคอกของมันจะมีลักษณะของการยกพื้นสูง ซึ่งจะแตกตากวัว ควาย หรือ ม้า แพะแคระก็เช่นกันดังนั้นหากใครที่เลี้ยงน้องในบ้าน หรือในนอนอาจจะต้องทำใจ เพราะน้องจะปีนหรือกระโดดไปอยู่บนเตียงนอน โต๊ะทำงาน หรือโซฟาของคุณอย่างแน่นอน และสิ่งที่ตามมาคือน้องอาจจะอึ (อุจจาระ) บนเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างแน่นอน

สนับสุนนโดย https://pgslot-89.com/ pg slot ค่ายเกมส์สล็อตออนไลน์สุดฮิต เล่นง่าย จ่ายจริง https://pgslot-89.com/

กุ้งแคระ เป็นกุ้งน้ำจืดขนาดเล็ก แต่มีสีสันที่หลากหลาย ซึ่งนับว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของกุ้งสายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ในส่วนของถิ่นกำเนิดของกุ้งแคระยังมีถิ่นมาจากแหล่งน้ำจืดของจีนตะวันออกและถูกนำเข้าไปยังไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮาวาย รวมไปถึงประเทศไทย เป็นต้น ดังนั้นสำหรับใครที่อยากลองเลี้ยงกุ้งชนิดนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับข้อมูลต่าง ๆ ของกุ้งชนิดนี้ก่อนว่าควรตัดสินใจเลี้ยงดีหรือไม่

กุ้งแคระ เลี้ยงไม่ยาก แค่ต้องสร้างระบบนิเวศในตู้ในสมบูรณ์ก่อนเลี้ยง

กุ้งแคระเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถพบเห็นได้จากแหล่งน้ำที่มีความสะอาดและอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นใครที่จะเลี้ยงกุ้งชนิดนี้จึงควรจำลองระบบนิเวศในตู้ให้มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด

วัสดุที่ควรมีในการเลี้ยงกุ้งแคระ

1. ตู้เลี้ยงกุ้งแคระ แนะนำให้เลี้ยงกุ้งชนิดนี้ในตู้กระจกเนื่องจากจะทำให้เราสามารถมองเห็นกุ้งตัวน้อยของเราในตู้ รวมไปถึงจะทำให้เราสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในตู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. ดินเลี้ยงกุ้งแคระ ดิน หรือหินสำหรับเลี้ยงกุ้งแคระ นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ เนื่องจากดินมีคุณสมบัติที่ช่วยลดค่า Hp ของน้ำ เนื่องจากน้ำที่ใช้สำหรับเลี้ยงกุ้งนั้นควรมีค่า Hp ที่เหมาะสม และที่สำคัญดินยังมีแร่ธาตุที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของกุ้งอีกด้วย
3. ต้นไม้น้ำ การเลี้ยงสัตว์น้ำหลาย ๆ ชนิดต้นไม้น้ำนับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการใช้ต้นไม้น้ำนั้นจะเป็นการจำลอง หรือการเลียนแบบธรรมชาติ ดังนั้นการปลูกไม้น้ำในตู้ของเรานั้นจะเป็นการจำลองระบบนิเวศในตู้ให้เหมือนธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
4. เครื่องผลิตออกซิเจน สำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระ หรือ กุ้งเชอร์รี่ เครื่องผลิตออกซิเจนอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป ในกรณีที่ตู้ของเรามีความสมดุลแล้ว แต่หากใครที่เป็นมีใหม่ เครื่องผลิตออกซิเจนก็อาจจะเป็นอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งที่เราแนะนำอยากให้ใช้เป็นอย่างยิ่ง

กุ้งแคระราคา หลักสิบ แถมนำมาเลี้ยงเพื่อต่อยอดเป็นอาชีพได้ด้วย

            สำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระ นั้น สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือเรื่องของระบบนิเวศในตู้ นั่นจึงหมายความว่าผู้ที่จะเลี้ยงกุ้งจึงต้องให้เวลา และใจเย็นมากพอสมควร ซึ่งจากการสอบถามผู้ที่เพาะพันธุ์กุ้งชนิดนี้ขายเป็นอาชีพบอกว่าหากอยากให้ระบบนิเวศของน้ำมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นควรมีการนำปลาตัวเล็ก (ปลาที่ไม่กินกุ้ง) มาเลี้ยงในบ่อก่อนเป็นเวลาสัก 1 – 2 สัปดาห์ และเมื่ออุณหภูมิของน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (25 – 28 องศาเซลเซียส) ระบบภายในตู้มีความคงที่ จึงค่อยปล่อยกุ้งแคระ เลี้ยงกับปลา ที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้ หรือใครที่อยาก เลี้ยงกุ้งแคระ กับ ปลาหางนกยูง ก็สามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของราคา กุ้งแคระก็มีราคาที่ไม่สูงมากนัก โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณตัวละ 10 บาทเท่านั้น ซึ่งบางคนอาจจะลงทุนกับพันธุ์เพียงหลักร้อยบาท แต่อาจจะทำกำไรได้หลายเท่าตัวเลยก็ว่าได้

ค่า Hp ที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้งแคระ

            อย่างที่เรากล่าวไปในข้างต้นว่าการเลี้ยงกุ้งแคระ การให้ความสำคัญกับค่า Hp ของน้ำนั้น เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เป็นเด็ดขาด เนื่องจากการที่น้ำในตู้มีค่า Hp หรือ กรดสูงเกินไปจะทำให้อัตราการฟักไข่ของกุ้งลดลง หรืออาจจะส่งผลให้กุ้งของเราตายได้ โดยค่า Hp ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงกุ้งควรจะอยู่ที่ราว ๆ 6.2 – 7.3 แต่หาสูงเกิน 7.5 การใช้ดินสำหรับเลี้ยงกุ้งเข้ามาเป็นตัวช่วยในการลดกรด นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเป็นอย่างยิ่ง

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม http://pg slot หรือ พีจีสล็อต ***ใส่ลิงค์ https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

เฟอเรท สัตว์เลี้ยงเอ็กโซติกสุดน่ารัก ที่เริ่มได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาdในเมืองไทย เพราะนอกจากรูปร่างน่าตาที่สุดแสนหน้ารักของน้อง นิสัยขี้เล่นสุดซน เหมือนเป็นเด็กตลอดเวลาของก็ทำให้เจ้าของหลาย ๆ คนใจชื้นได้เสมอ

เฟอเรท สัตว์เลี้ยงตัวน้อย ที่สุดของนักสำรวจ แถมติดเจ้าของเป็นพิเศษ

            เฟอเรท นับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลาย ๆ คนสนใจอยากเลี้ยงเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่จะไปหาซื้อน้องมาเลี้ยงวันนี้เราจพาทุกคนไปทำความรู้จักกับทั้งนิสัย และวิธีการเลี้ยงน้องเสียก่อน ก่อนที่จะตกเป็นทาศรักของน้องจนหมดใจ

ลักษณะนิสัย

            ต้องขอบอกว่าเฟอเรท นิสัย น่ารัก ฉลาด ร่าเริง ขี้เล่น ซุกซน และที่สำคัญยังเป็นนักสำรวจที่ดี ดังนั้นหากใครที่อยากเลี้ยงน้องควรมีเวลาให้กับน้องอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อพาน้องออกไปเล่นในสวน หรือสนามหญ้าในทุก ๆ วัน

            นอกจากนี้สำหรับการดูแล และการเลี้ยงเฟอเรท หรือ เฟร์ริต จะไม่เหมือนน้องหมาหรือน้องแมว เนื่องจากผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลสัตว์ชนิดนี้เป็นพิเศษ เพราะนอกจากจำเป็นต้องพาน้องออกไปสำรวจโลกภายนอกในทุก ๆ วันแล้ว ในเรื่องอื่นก็ต้องดูแลเป็นพิเศษไม่แพ้กัน และสำหรับใครที่สงสัยว่าเฟอเรท เหม็นไหม วันนี้เรามีคำตอบให้

วิธีดูแล

• เล็บของน้องจะยาวไวเป็นอย่างมาก ดังนั้นต้องตัดเล็บประมาณสัปดาห์ละครั้ง
• เฟอเรทเป็นสัตว์ที่มีกลิ่นตัวแรง แต่ไม่ควรอาบน้ำให้น้องบ่อเกินไป เพราะยิ่งอาจกลิ่นของน้องก็จะแรงขึ้น โดยแนะนำให้อาบเดือนละครั้ง
• อย่าทำให้น้องตกใจ เพราะเมื่อไรที่เฟอเรทตกใจน้องจะปล่อยกลิ่นออกมา
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเฟอเรทโดยเฉพาะเพื่อสุขภาพที่ดีของน้อง
• เฟอเรทป่วย เสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ รวมไปถึงสามารถแพร่เชื้อให้คนได้ ดังนั้นการพาน้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ รวมไปถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรค และไวรัสต่าง ๆ จึงสำคัญกับน้องมาก

ซื้อเฟอเรทที่ไหนดี และค่าตัวน้องแพงหรือไม่?

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้เฟอเรท มาเลี้ยงที่บ้านแต่ยังไม่ทราบว่าจะซื้อน้องจากที่ไหนดี หรือ ราคาของน้องแต่ละตัวอยู่ที่ประมาณเท่าไร วันนี้เราได้หาข้อมูลเหล่านั้นมาให้กับทุกคนแล้ว โดยเฟอเรท ราคาไทย จะอยู่ที่ประมาณ 4,500 – 10,000 บาท ซึ่งเฟอเรท ราคา ราคานำเข้าก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกันนี้

3 ฟาร์มเฟอเรทแนะนำ

• Indy Exotic

ฟาร์มเฟอเรทในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ทางฟาร์มจะเปิดจองน้องเป็นรอบ ๆ ซึ่งเฟอเรทจากฟาร์มมีหลายสีให้เลือก ที่สำคัญน่ารักทุกตัว

• Ferret Story

ฟาร์มเฟอเรทที่ทั้ง เพาะพันธุ์เฟอเรท จำหน่ายอาหารbarf และอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงเฟอเรทแบบครบวงจร ซึ่งเฟอเรทจากทางฟาร์มแต่ละตัวจะมีการระบุข้อมูลรวมไปถึงราคาอย่างครบถ้วน ดังนั้นสนใจน้อง ๆ ตัวไหนก็สามารถสั่งจองได้เลย

• Alpaca Hill

อัลปาก้า ฮีล นอกจากจะเป็นสวนสัตว์ และฟาร์มที่เปิดให้ทุกคนสามารถเข้าไปเที่ยวได้แล้ว ยังมีการเพาะพันธุ์ และจำหน่ายสัตว์หลาย ๆ ชนิด รวมไปถึงเฟอเรท ซึ่งใครที่อยากได้ก็ลองติดต่อสอบถามไปยังทางช่องทางต่าง ๆ ของฟาร์มได้เลย

บทสรุป

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการเลี้ยงเฟอเรท และไม่สามารถหาซื้ออาหารของน้องได้เราแนะให้เป็นเนื้อไก่ หรืออาหารลูกแมวคุณภาพสูงกับน้องจะดีกว่า และไม่แนะนำให้ให้อาหารน้องหมากับน้อง เพราะจะทำให้น้องสามารถเป็นมะเร็งได้ในภายหลังนั่นเอง

https://sites.google.com/site/fexreth/fex-reth/khxmul-phun-than

กระต่ายฮอลแลนด์ลอป หนึ่งในสายพันธุ์กระต่ายที่มีความนิยมเลี้ยงในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย เนื่องจากกระต่ายสายพันธุ์นี้มีทั้งความน่ารัก ขนฟู เลี้ยงง่าย และที่สำคัญน้องยังมีนิสัยที่น่ารักเป็นอย่างยิ่ง

กระต่ายฮอลแลนด์ลอป เลี้ยงง่าย นิสัยน่ารัก เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่จำกัดสุด ๆ

               กระต่ายฮอลแลนด์ลอปเป็นกระต่ายที่มีนิสัยที่น่ารัก และที่สำคัญเป็นหนึ่งในสายพันธุ์กระต่ายที่เลี้ยงง่ายเป็นอย่างยิ่ง โดยลักษณะทั่วไปของกระต่ายสายพันธุ์นี้จะมีรูปร่างที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่จะมีกล้ามเนื้อที่แน่น ดังนั้นจึงทำให้น้ำหนักตัวของกระต่ายจะอยู่ที่ประมาณ 1.8 – 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากนี้รูปร่างของตัวกระต่ายจะมีลักษณะที่กลม หัวสั้นและหูตกยาวเลยคาง และขนของมันจะมีความนุ่มฟูแต่จะไม่ยาวจนกินไป ซึ่งใครที่สงสัยว่ากระต่ายฮอลแลนด์ลอปแท้ ดูยังไง ก็สามารถเอาเกณฑ์ดังกล่าวไปเป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบแมวสายพันธุ์นี้ในเบื้องต้นได้เช่นกัน

กระต่ายฮอลแลนด์ลอปนิสัย

กระต่ายนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความซุกซนในรูปแบบของน้องแต่ละสายพันธุ์อยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นเสน่ห์ที่น่ารักของน้อง ๆ ซึ่งฮอลแลนด์ลอปจะเป็นกระต่ายที่ค่อนข้างเป็นมิตร ฉลาด เลี้ยงง่าย และที่สำคัญยังเป็นกระต่ายที่ค่อนข้างเรียบร้อยพอสมควร

กระต่ายฮอลแลนด์ลอปวิธีเลี้ยง

               น้องนับว่าเป็นกระต่ายที่เลี้ยงค่อนข้างง่าย แต่หากใครที่มีเลี้ยงแมวอยู่ภายในห้องเดียวกันกับน้อง เราไม่แนะนำให้น้องในห้องน้ำร่วมกัน โดยห้องน้ำสำหรับน้องกระต่ายควรใช้เป็นขี้เลื่อย หรือหนังสือพิมพ์ก็ได้เช่นกัน

• อาหาร

น้องกระต่ายสามารถกินอาหารได้หลากหลายอย่าง ทั้งหญ้าอัลฟาฟ่า, หญ้าทิโมธี, หญ้าแพงโกล่า, ผัก, ผลไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น แครรอท, บร็อคเคอรี่ และผักชีฝรั่ง เป็นต้น ซึ่งหญ้าแต่ละชนิดก็จะมีสารอาหารที่แตกต่างกันไป และสำหรับใครที่อยากให้อาหารกับน้อง ควรเป็นกระต่ายที่มีอายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไปนอกจากนี้ในส่วนของน้ำควรให้เป็นน้ำสะอาด ซึ่งเราแนะนำให้นำน้ำใส่กระบอกและติดไว้ที่กรง ให้น้องสามารถกินได้ตลอดเวลา และหากใครที่อยากให้ขนมกระต่ายกับน้องก็สามารถให้ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรให้ถี่จนเกินไป

• บ้านของน้องกระต่าย

กระต่ายสามารถเลี้ยงได้ทั้งในกรง หรือเป็นคอกสำหรับกระต่าย (หาซื้อได้ไม่ยาก) ซึ่งแนะนำให้เลือกกรงที่มีพื้นที่พอสมควร เพื่อให้น้องได้มีพื้นที่ในการเดิน และวิ่งเล่น โดยตำแหน่งที่เหมาะในการวางบ้านของน้องควรเป็นที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง แต่ลมไม่ควรพัดแรงจนเกินไป พื้นไม่ชื้น หรือแฉะ เพราะจะทำให้น้องป่วยได้

ราคาและ 2 ฟาร์มกระต่ายระดับแชมป์ที่อยากแนะนำ

               อย่างที่เราได้กล่าวไปตั้งแต่ข้างต้นแล้วว่ากระต่ายฮอลแลนด์ลอป เป็นกระต่ายที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงหาซื้อได้ไม่ยากนัก โดยกระต่ายฮอลแลนด์ลอป ฟาร์ม ในไทยนั้นมีอยู่หลายฟาร์มด้วยกัน นอกจากนี้ในส่วนของราคา ฮอลแลนด์ลอป ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 10,000 บาทขึ้นไป

ฟาร์มกระต่าย

Rhosgobel (รอสโกเบล)

กระต่ายจากฟาร์มเป็นกระต่ายที่มีการคัดเลือกสายพันธุ์กระต่ายที่มีลักษณะที่ดีที่สุดตามมาตรฐานสากล ARBA จากประเทศอเมริกา และนำมาพัฒนาต่อ ที่สำคัญกระต่ายจากฟาร์มยังมีดีกรีแชมป์มาการันตีอีกด้วย

Bunny Villa

อีกหนึ่งฟาร์มที่เชี่ยวชาญในการพัฒนากระต่าย และมีกระต่ายดีกรีแชมป์หลายเวลา ดังนั้นใครที่ได้น้องกระต่ายจากฟาร์มไปเลี้ยงหายห่วงเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอน

(บทสรุป)

               เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ กระต่ายฮอลแลนด์ลอป ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ และก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้ เราอยากฝากข้อมูลดี ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเลี้ยงน้องกระต่ายทุกคนว่า กระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขึ้นตกใจ ดังนั้นจึงควรสัมผัสน้องเบา ๆ และไม่ควรจับหูน้องและยกขึ้นเป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากน้องจะเจ็บแล้ว ยังอาจจะส่งผลให้น้อยช็อกได้