แฮมสเตอร์ เจ้าหนูสุดน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องใจละลาย

หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในกลุ่มของหนู แฮมสเตอร์ ก็นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เนื่องจากเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทั้งตัวเล็กและน่ารัก ที่สำคัญยังหาซื้อได้ค่อนข้างง่าย และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้มากขึ้น ทั้งประวัติ, วิธีการเลี้ยง, อาหาร, ราคา รวมไปถึงฟาร์มเพาะเลี้ยงแฮมสเตอร์ ซึ่งจะน่าสนใจขนาดเราไปดูพร้อมกันเลย

ทำความรู้จักกับ แฮมสเตอร์ สัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก

แฮมสเตอร์สัตว์เลี้ยงที่ได้ความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยหนูแฮมสเตอร์นั้น เป็นหนูที่มีทั้งความน่ารัก และฉลาด อีกทั้งยังเลี้ยงค่อนข้างง่าย และสามารถเลี้ยงในพื้นที่ที่จำกัด ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าหนูสุดแสนน่ารักตัวนี้กันค่ะ

ประวัติแฮมสเตอร์

“แฮมสเตอร์” มาจากภาษาเยอรมันซึ่งแปลว่า “กระพุ้งแก้ม” เนื่องจากลักษณะนิสัยส่วนตัวและเป็นเอกลักษณ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่ชอบอมอาหารไว้ในกระพุ้งแก้มของพวกมัน โดยแฮมสเตอร์นั้นเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดที่ค่อนข้างกระจายตัวอยู่ในหลายแห่งของเอเชีย ทั้งเอเชียกลาง เอเชียตะวันออก และตะวันออกกลาง ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 ทะเลทรายซีเรีย และถูกนำมาเพาะเลี้ยงครั้งแรกในอเมริกา จนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงในที่สุด

วิธีการเลี้ยง

การเลี้ยงแฮมสเตอร์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิด โดยเราแนะนำให้เลี้ยงในกรง หรือตู้กระจกที่ออกแบบมาสำหรับการเลี้ยงแฮมสเตอร์ ซึ่งเราจะแนะนำให้เลือกใช้กรงแบบตู้กระจกจะดีกับเจ้าหนูมากกว่า เนื่องจากทำความสะอาดง่าย และเหมาะกับแฮมสเตอร์หลายสายพันธุ์ โดยกรงควรมีพื้นที่พอเหมาะไม่แคบจนเกินไป เนื่องจากในกรงจะประกอบไปด้วยถ้วยอาหาร ของเล่น หรืออาจจะเสริมอ่างน้ำเล็ก ๆ สำหรับให้แฮมสเตอร์ได้เล่นน้ำ และที่สำคัญไปกว่านั้น ควรวางกรงให้ปราศจากสัตว์อื่น เช่นสุนัข หรือแมว เป็นต้น

อาหารสำหรับแฮมสเตอร์

สำหรับใครที่สงสัยว่าแฮมสเตอร์ กินอะไรได้บ้าง หรือแฮมสเตอร์ กินผักอะไรได้บ้าง วันนี้เราได้หาคำตอบมาให้กับทุกคนแล้ว โดยอาหารของแฮมสเตอร์นั้นหาซื้อได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และสัตวแพทย์แนะนำ แต่หากเป็นในส่วนของอาหารเสริมเช่น ผักหรือผลไม้ ก็มีหลายชนิดด้วยกันที่แฮมสเตอร์สามารถกินได้ เช่น แครอท, แตงกวา, แอปเปิล, กล้วย, พริกหวาน, ผักกาด (ยกเว้นผักกาดแก้ว), ขึ้นฉ่าย, คะน้า, กะหล่ำ และต้นหญ้าแดนดิไล เป็นต้น แต่ผลไม้รสเปรี้ยวคือห้ามเด็ดขาด ดังนั้นสำหรับใครที่สงสัยว่าแฮมสเตอร์ กินส้มได้ไหม คำตอบคือไม่ได้นั่นเอง

แหล่งที่ขาย และราคาของแฮมสเตอร์ จากฟาร์มในเมืองไทย

สำหรับคนที่อยากเลี้ยงแฮมสเตอร์ และกำลังตามหาฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ รวมไปถึงราคาของหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งก่อนที่จะไปดูข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้น เราต้องของอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจกันก่อนว่าแฮมสเตอร์นั้นมีหลายสายพันธุ์ เช่นแฮมสเตอร์ ไจแอนท์,แฮมสเตอร์ วินเทอร์ไวท์ หรือแฮมสเตอร์ โรโบ เป็นต้น ดังนั้นเราจึงจะคัดเลือกข้อมูลบางส่วนมายกตัวอย่างให้เพื่อน ๆ ได้ดูเป็นแนวทางฟาร์มเพาะเลี้ยง

Facebook: ไจแอนท์แฮมสเตอร์ มีแฮมสเตอร์หลายสายพันธุ์ให้เลือก รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงแฮมสเตอร์ ที่สำคัญมีบริการส่งทั่วประเทศ สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามไปที่เพจเฟซบุ๊กได้เลย

Facebook: ปอสแฮมเตอร์ช็อป ฟาร์มนี้ไม่มีหน้าร้าน เป็นฟาร์มเล็ก ๆ ที่เปิดขายแฮมสเตอร์ในบ้านที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งฟาร์มนี้แฮมสเตอร์หลายสายพันธุ์ให้เลือก อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงแฮมสเตอร์จำหน่ายอีกด้วย หากใครที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถามไปทางเพจได้เลย หรือโทร. 0959578280

IG: micehouse_hatyai ฟาร์มหนูแฮมสเตอร์ในอำเภอหาดใหญ่ มีแฮมสเตอร์หลายสายพันธุ์ให้เลือก อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ และอาหารสำหรับแฮมสเตอร์จำหน่าย สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามไปที่ Instagram ของร้านหรือ @Line: 580duuca

ราคาแฮมสเตอร์

ในส่วนของราคาหนูแฮมสเตอร์ ราคา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักสิบถึงหลักพัน เช่นสายพันธุ์โรโบรอฟสกี้แฮมสเตอร์ ที่จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 100 – 300 บาท ต่อตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาของพวกมันจะถูกหรือแพงกว่านี้ไม่ได้ เพราะราคาของแฮมสเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นคุณภาพของฟาร์ม และสายพันธุ์ เป็นต้น