เดือน: กันยายน 2021

น้องหมาหรือสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดแสนรู้ชอบทำสายตาออดอ้อนบวกกับความซนทำให้ใครหลายๆคนต้องตกเป็นทาสหมา น้องหมาเป็นสัตว์ที่ชอบเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ เป็นสัตว์เลี้ยงที่คอยทำให้เรามีความสุข สนุกสนานเป็นเพื่อนคู่ใจที่คอยอยู่ข้างๆเรา การที่เราหาน้องหมามาเลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจจึงมีความสำคัญมากในการเลือกดูลักษณะสายพันธุ์ อุปนิสัยรวมถึงวิธีการดูแลน้องหมาให้ดี วันนี้เราจึงได้รวบรวม ร้านขายหมา ในชลบุรี ที่ซื้อ-ขายและบริการรับผสมพันธุ์สุนัขชลบุรีที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับน้องหมามาฝากเพื่อนๆกัน

ร้านขายหมา ในชลบุรี

บ้านเฟรนช์บูลด็อก-พนัสนิคม จ.ชลบุรี

บ้านเฟรนช์บูลด็อก-พนัสนิคม จ.ชลบุรี เป็นร้านขายหมาในชลบุรีที่มีชื่อเสียง คิดถึงฟาร์มสุนัข พนัสนิคมต้องนึกถึงร้านนี้เลย เป็นร้านที่จำหน่ายน้องหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อกแท้ ที่การันตีเรื่องคุณภาพ ใครที่ซื้อน้องหมาจากทางร้านมีบริการฉีดวัคซีนป้องกัน 5 โรคเข็มแรกฟรี ใครที่ไม่สะดวกไปรับน้องหมาที่ร้านมีบริการส่งน้องถึงที่แถมยังส่งจังหวัดเอาใจคนนอกพื้นที่ชลบุรีอีกด้วย

การติดต่อ

เพจ Facebook : บ้านเฟรนช์บูลด็อก-พนัสนิคม จ.ชลบุรี

เบอร์โทรศัพท์ : 0962138317 หรือ 0841463713

เวลาทำการ : เปิดบริการวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 09:00 – 16:30 น. หยุดทุกวันอาทิตย์

ที่อยู่ร้าน : 48 หมู่ 3 ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี Phanat Nikhom, Chon Buri 2014

บ้านปาปิยอง

บ้านปาปิยอง จากชื่อร้านแล้วก็คงเดากันได้นะคะว่าเป็นร้านที่ขายหมาพันธุ์ปาปิยองที่มาจากความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้าน ใครที่ชอบน้องหมาตัวเล็ก หูตั้ง ขนสวย หางยาวเป็นโพรงกระรอก มีลักษณะนิสัยร่าเริง สนุกสนาน ชอบทำกิจกรรม แนะนำพันธุ์นี้เลย ถ้ากลัวเลี้ยงน้องไม่ได้ขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากทางร้านได้เลยคะ เพราะพี่เจ้าของร้านใจดีมาก พูดคุยเป็นกันเอง ราคาค่าสินสอดน้องก็ไม่แพงด้วย

การติดต่อ

เพจ Facebook : บ้านปาปิยอง ขายลูกสุนัข Papillon ฟาร์มอยู่ชลบุรี

โทรศัพท์ :  083 072 1939

เวลาทำการ : ตลอดเวลา

ที่อยู่ร้าน : 6/173 หมู่ 3 ซอยบ้านสวน-หนองข้าง23 ถนนบ้านสวน ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี เทศบาลเมืองชลบุรี 2000

ลูกโฟมฟาร์ม ชิวาวา พัทยา

ลูกโฟมฟาร์ม ชิวาวา พัทยา จำหน่ายน้องหมาพันธุ์ชิวาวาและเฟร้นบูด๊อก น้องหมาที่ออกไปจากร้านนี้รับประกันคุณภาพและความสะอาดเลย เพราะทางร้านดูแลน้องๆดีมาก และที่สำคัญเรายังสามารถจับจองน้องๆตั้งแต่เด็กๆได้เลย ทางร้านจะบริการดูแลน้องๆให้จนกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนบ้านใหม่ แถมมีใบรับประกันจากทางร้านให้ด้วยนะ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปติดตามที่เพจ ลูกโฟมฟาร์ม ชิวาวา พัทยา กันเลย ทางร้านจะคอยอัพเดตและพัฒนาการของน้องๆให้เราชมความน่ารักอยู่เป็นประจำ

การติดต่อ

เพจ Facebook : ลูกโฟมฟาร์ม ชิวาวา พัทยา

LIND : ifooam04

เบอร์โทรศัพท์ : 086 399 6942

พิกัด : พัทยา เมืองพัทยา อำเภอ บางละมุง ชลบุรี 20150 ประเทศไทย

พิมลพรรณฟาร์มบางแก้ว

ถัดมาเป็นน้องหมาพันธ์บางแก้วจากทางร้าน พิมลพรรณฟาร์มบางแก้ว ร้านนี้สำหรับคนที่ชอบพันธุ์บางแก้วโดยเฉพาะเลย เพราะมีการบริการทั้งจำหน่าย ผสมพันธุ์ น้องทุกตัวผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาคมส่งเสริมและพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ประเทศไทยอีกด้วย แถมราคาก็น่ารัก การบริการก็ดีเยี่ยม

การติดต่อ

เพจ Facebook : พิมลพรรณฟาร์มบางแก้ว

โทรศัพท์ : 0865235393, 0818750521

อีเมล : pimonphanfarmbangkaew@hotmail.com

ที่อยู่ร้าน : 27/4 หมู่3 หน้าประดู่ พานทอง ชลบุรี 20160

ใครสนใจร้านขายหมาในชลบุรีร้านไหนกันบ้างคะ ถูกใจสายพันธุ์ที่อยากเอาไปเป็นเพื่อนซี้คู่ใจกันใช่มั้ย เพราะร้านที่คัดมาฝากเพื่อนๆล้วนเป็นร้านเป็นที่นิยมในจังหวัดชลบุรีเลย เพราะสะอาด ปลอดภัย มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ไม่ต้องกลัวว่าจะได้น้องหมาที่ไม่แข็งแรง

การเลี้ยงน้องแมวนอกจากความสำคัญในเรื่องที่พักอาศัยและอาหารการกินแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะคำนึงถึงนั่นก็คือสถานที่รักษา เพราะแม้เขาจะดูแข็งแรงแค่ไหน แต่การเข้าถึงการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้มนุษย์ที่ยารักษาประจำบ้านยังถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ได้ วันนี้จึงอยากจะมาพูดถึง คลินิกรักษาแมว ในชลบุรีอย่าง โรงพยาบาลสัตว์เมืองใหม่ ที่เป็นที่น่าสนใจและมีผู้คนมากมายเลือกที่จะฝากน้องแมวของเขาไว้กับคุณหมอที่นี่อย่างสบายใจ

คุณหมอใจดี บริการเต็มที่ คลินิกรักษาแมว

เป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่เปิดทำการมานานแล้ว โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญและทีมผู้ช่วยแพทย์ที่เพียงพอ สามารถรองรับน้อง ๆ ในจำนวนที่มากได้เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง สะอาด และปลอดภัย ที่สำคัญบรรยากาศภายในโรงพยาบาลก็มีความอบอุ่น ไม่ทำให้น้อง ๆ ตื่นตระหนก ประหนึ่งเหมือนได้เปลี่ยนที่พักผ่อน โดยคลินิกรักษาแมวในชลบุรีแห่งนี้จะเน้นไปที่การดูแลน้องแมวและน้องหมาเท่านั้น หากใครอยากพาน้องมาฉีดวัคซีนแมว ชลบุรีก็ขอแนะนำให้เป็นที่นี้ได้เลย

เมื่อพูดถึงการฉีดวัคซีนแล้วซึ่งเป็น 1 ในการบริการของที่นี่ โดยการบริการของโรงพยาบาลสัตว์เมืองใหม่จะแบ่งออกเป็น 4 อย่าง คือ รักษาสัตว์ จะเป็นการรักษาโรคต่าง ๆ ของน้อง ๆ รวมถึงหากใครอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลแล้วอยากให้น้องทำหมันแล้วล่ะก็ ที่นี่สามารถทำหมันแมวบางแสนได้อย่างปลอดภัยเลย นอกจากนี้ก็ยังมีบริการอาบน้ำ-ตัดขน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการดูแลทำความสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อโรคได้ รวมไปถึง Pet Shop หรือร้านขายของสำหรับน้องแมว ก็จะมีทั้งของใช้ อาหาร และขนมทานเล่น

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับอีกหนึ่งข้อดีของคลินิกรักษาแมวในชลบุรีแห่งนี้ คือการฝากเลี้ยง หลายคนอาจเคยเจอปัญหาฝากเลี้ยงแล้วน้องดูสกปรก ติดเห็บหมัด หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างดี ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นกับที่นี่อย่างแน่นอนเพราะด้วยบุคลากรที่มีจำนวนมาก จึงสามารถรองรับน้อง ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยทางเพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลเองก็จะคอยอัปเดตให้เห็นอยู่ตลอดเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ อย่ารอเพื่อให้น้องนั้นแสดงอาการผิดปกติ เราควรหมั่นตรวจเช็คเขาอยู่ตลอดและควรพาน้องไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาแมวในชลบุรีเพื่อให้เขาปลอดภัยกับโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเขาได้ในอนาคต หากผู้ใดสนใจที่จะพาน้องไปปรึกษาแพทย์ ใช้บริการของโรงพยาบาล ทำการรักษา หรืออยากติดต่อไปยังโรงพยาบาลสัตว์เมืองใหม่โดยตรง สามารถเดินทางไปได้ที่รายละเอียดด้านล่างนี้

เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30 น. – 20:30 น.

เบอร์โทรศัพท์: 087 705 1527

Facebook Page: https://www.facebook.com/muangmaipethospital/?ref=page_internal แผนที่: https://goo.gl/maps/sThk9RRifcWBbf7n9

เชื่อว่าหลาย ๆ คนเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการเลี้ยงน้องแมว มักเกิดปัญหาเริ่มแรกขึ้นมาว่า แล้วจะไปหาน้องแมวตัวนั้นมาจากไหน บางคนอาจเลือกที่จะรอให้มีใครสักคนโพสต์ประกาศรับเลี้ยงลูกแมว แต่หากใครไม่สามารถรอได้ก็อาจจะต้องหาซื้อแมวมาเลี้ยงเอง แต่ควรจะซื้อร้านไหนดีก็ยังคงเป็นปัญหาที่ตามมาเช่นกัน วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำ 5 ร้านขายแมวในชลบุรี ที่มีคุณภาพและได้น้องแมวที่ปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอน

แนะนำ  ร้านขายแมวในชลบุรี  ที่เหล่าทาสต้องรู้จัก

1.เริ่มกันที่ Cat Corner ร้านขายแมวแถวชลบุรีที่มีพันธุ์แมวหลากหลายอย่างมาก น้อง ๆ ดูสะอาดได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และที่สำคัญร้านนี้มีให้เลือกจองได้ตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวตัวเล็ก ๆ กันเลยทีเดียว แต่หากใครต้องการดูสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่นน้องหมา ที่นี่ก็มีให้เลือกดูเช่นกัน

พิกัดร้าน: 222 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี

เบอร์โทรศัพท์: 080 993 0503

FB: https://www.facebook.com/Cat.Underscore.Corner/

2.ร้านขายแมวในชลบุรีถัดมาเป็นร้านที่ชื่อว่า แมวสก็อตติสโฟลด์ชลบุรี by วิฬาร์ธานี จากชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าที่นี่ขายน้องแมวพันธุ์สก็อตติสโฟลด์นั่นเอง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้ หากสังเกตเพจแมวต่าง ๆ จะพบว่าเป็นน้องแมวพันธุ์นี้เกือบทุกเพจเลยก็ว่าได้ ที่ร้านนี้เลี้ยงน้องแมวดูอิสระและอยู่ร่วมกับคนได้อย่างดีเลย ทางเพจของร้านมักจะอัพเดตอยู่เสมอว่าน้องตัวไหนถูกจองไปแล้วบ้าง หากใครชอบน้องพันธุ์นี้ ร้านนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี

พิกัดร้าน: 101 1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

เบอร์โทรศัพท์: 083 185 8129

FB: https://www.facebook.com/wilarthani/

3.ร้านนี้ต้องขอบอกเลยว่า เป็นร้านที่ได้รับรางวัลประกวดแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์มาอย่างโดดเด่น ซึ่งจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก Sunde Morning Cattery เพราะฉะนั้นจะมั่นใจได้เลยจากประสบการณ์ของที่นี่ที่ได้จดทะเบียนสมาคมแมว CFA ไปเรียบร้อยแล้ว จะมอบน้องแมวที่น่ารักและปลอดภัยแข็งแรงให้กับเราได้อย่างแน่นอน และทางร้านยังนำเข้า แต่ทางร้านสะดวกแค่การติดต่อผ่านออนไลน์เท่านั้นนะ

เบอร์โทรศัพท์: 062 424 6469

FB: https://www.facebook.com/sundemorningcat

Line: Cathousethailand

4.ร้านขายแมวในชลบุรีอันดับที่ 4 ก็คือ Scottish Fold Baan Piemrak ต้องขอบอกว่าน้องแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์นี่ได้รับความนิยมอย่างมากจริง ๆ ซึ่งร้านนี้แม้จะมีหน้าร้าน แต่ว่าในด้านออนไลน์ทางร้านมักจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มแมวมากกว่า แต่ก็นับว่าเป็นจุดแข็งของร้านขายแมวแถวศรีราชาแห่งนี้อย่างมากเพราะในกลุ่มแม้ว่าจะเป็นพันธุ์เดียวกัน แต่น้องแมวจากร้านนี้มักโดดเด่นอยู่เสมอ หากใครสนใจลองเข้าไปดูในกลุ่มได้เลย เผลอ ๆ อาจได้น้องแมวจากร้านอื่นด้วยนะ

พิกัดร้าน: 9/376 หมู่ 3 สุรศักดิ์ ศรีราชา ชลบุรี

เบอร์โทรศัพท์: 081 233 4261

กลุ่ม: https://www.facebook.com/groups/364451611660056/posts/428911778547372

เว็บไซต์: https://scottish-fold-baan-piamrak.business.site/

5.และร้านสุดท้ายมีชื่อว่า Mine Mint Cat House บ้านแมวมายมิ้นท์ ร้านนี้มีทั้งน้องแมวพันธุ์ เปอร์เซีย สก็อตติชหูตั้ง และสก็อตติชหูพับ ร้านนี้ไม่มีหน้าร้านแต่ทางเพจจะอัปเดตน้องแมวอยู่ตลอด ซึ่งรับรองความสะอาดและความปลอดภัยของน้อง ๆ ได้เลยเพราะทางร้านดูแลอย่างดีถึงขั้นฉีดวัคซีนให้ครบเลย ส่วนราคาก็จับต้องได้และยังส่งตรงถึงมือคุณพ่อคุณแม่ของน้อง ๆ อีกด้วย หากใครต้องการน้องแมวร้านนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

เบอร์โทรศัพท์: 085 086 1508

FB: https://www.facebook.com/minemintcattyhouse/?ref=page_internal          

จบไปแล้วกับ 5 ร้านขายแมวในชลบุรีที่น่าเชื่อถือ น้องแมวสะอาดและปลอดภัย และด้วยความหลากหลายของร้านทั้งหมดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในการช่วยตัดสินใจให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมเลือกร้านที่ตรงกับสไตล์ของคุณได้

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสัก การศึกษาลักษณะนิสัยของสัตว์เลี้ยงนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ และเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ และการศึกษาโรคที่สัตว์เลี้ยงตัวนั้น ๆ ของคุณสามารถเป็นได้ก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งหากคุณอยากลองเลี้ยงนกสักตัว การศึกษา โรค ที่นกสามารถเป็นได้ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากนกนั้นนับว่าเป็นสัตว์เอ็กโซติก ดังนั้นอาการเจ็บป่วย หรือโรคที่เกิดจากนกนั้นเป็นโรคที่ค่อนข้างเฉพาะ และโรคที่นกสามารถเป็นได้ ส่วนใหญ่นั้นจะต้องรักษาจากหมอหรือสัตวแพทย์เฉพาะสัตว์เอ็กโซติกเท่านั้น ดังนั้นหากคุณอยากเลี้ยงนกควรศึกษาเรื่องโรคให้ดี และศึกษาว่าบริเวณใกล้บ้าน หรือใกล้ที่อยู่อาศัยของคุณนั้น มีโรงพยาบาลสำหรับสัตว์เอ็กโซติกหรือไม่ เพื่อให้เกิดความสบายใจของผู้เลี้ยง และความปลอดภัยของนกของคุณเอง

5 โรค อาการที่บ่งบอกว่านกป่วย

โรคที่นกสามารถเป็นได้นั้นมีหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเชื้อรา, ท้องร่วง, เป็นไข้ และโรคไต เป็นต้น ซึ่งโรคต่าง ๆ เหล่านี้สามารถพบได้บ่อยในนกสวยงามที่เรานิยมเลี้ยงกัน โดยโรคต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นอันตราต่อนกของคุณเป็นอย่างมาก แต่การที่เราจะทราบได้ว่า นกของเราป่วยเป็นโรคอะไรก็อาจจะตอบได้อยาก เนื่องจากนกเป็นสัตว์เอ็กโซติก ซึ่งอาการป่วยบางอาการเราเองอาจจะดูไม่ออก เช่นโรคไต ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากภายในร่างกายของนก ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องสังเกตอาการต่าง ๆ ที่จะแสดงออกมา ซึ่งเราได้รวบรวม 5 อาการที่บ่งบอกว่านกป่วย โดยจะมีดังนี้

1. พฤติกรรมเปลี่ยนไป
   พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนก เช่น กินอาหารน้อยลง ไม่ร้อง ไม่ร่าเริง นอนตลอดเวลา เป็นต้น
2. ตัวสั่น เหมือนมีอาการรู้สึกหนาว
   หากนก หรือสัตว์ปีกชนิดต่าง ๆ มีอาการป่วยมักจะมีอาการตัวสั่น ขนพอง และตัวเฉา ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะมีอาการตัวร้อน หรือเป็นไข้
3. ขับถ่ายผิดปกติ
   ลักษณะของการขับถ่ายที่ผิดปกติ ได้แก่ อุจจาระเหลว, มีสีผิดปกติ และมีเนื้ออุจจาระน้อยแต่มียูเรตมาก ซึ่งยูเรตนั้นจะอยู่ในอุจจาระของนกเป็นปกติ แต่หากมีมากเกินไป แสดงว่านกของคุณอาจจะป่วย
4. มีน้ำมูก
   การที่นกมีน้ำมูก และขี้ตา เป็นการแสดงออกถึงความผิดปกติจากภายใน นอกจากนี้อาการทางเดินหายใจ เช่น หายใจถี่ มีเสียงดัง หอบ หรือหายใจกระดกหาง ก็อาจจะมีตามมาด้วย
5. อาหารไม่ย่อย หรือขย้อนอาหาร
   หากนกของคุณยังไม่ได้กินอาหารแต่บริเวณออกมีความแหลมและตึง เหมือนกับตอนที่กินอาหารอิ่มใหม่ ๆ หรือขย้อนอาหารออกมา แสดงว่านกของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และอาจจะต้องพานกของคุณไปพบแพทย์ทันที

โรคไตที่เกิดในนกสายงาม

โรคที่นกสามารถเป็นได้นอกจากจะเป็นโรคทั่วไปอย่างเป็นไข้, หนาวสั่น หรือขนร่วงที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย อีกโรคหนึ่งที่เหล่านกสวยงามสามารถเป็นได้ และค่อนข้างอันตรายนั่นก็คือโรคไตที่เกิดในนกสวยงาม ซึ่งโรคไตนั้นมีทั้งแบบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส พยาธิชนิดต่าง ๆ และโรคทางพันธุกรรม หรือความผิดปกติของไตที่เป็นมาแต่กำเนิด ตัวอย่างเช่นไตอักเสบ, กรวยไตอักเสบ, โรคติดเชื้อในไต เป็นต้น

โดยวิธีป้องกันไม่ให้นกที่คุณเลี้ยงอยู่เป็นโรคไต ก็สามารถป้องกันด้วยการให้น้ำและอาหารที่สะอาดและไม่ปนเปื้อนสารเคมีที่เป็นพิษ และนอกจากนี้ควรหมั่นพานกของคุณไปตรวจร่างการกับแพทย์เฉพาะทางด้วยนะคะ

ปัจจุบันการเลี้ยงนกอาจกลายมาเป็นงานอดิเรกของใครหลาย ๆ คน เนื่องจากนกหลาย ๆ สายพันธุ์นั้นมีความน่ารัก และฉลาดเป็นอย่างมาก จนทำให้ใครหลายคนสามารถตกหลุมรักนกที่แสนน่ารักและสดใสได้อย่างง่ายดาย ซึ่งบางคนก็มีการพัฒนาจากการเลี้ยงนกธรรมดาในบ้านไปเป็นการเพาะพันธุ์นกขาย โดย สายพันธุ์นก ที่คนเรานิยมเลี้ยงกันนั้นก็มีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการแนะนำให้กับคนที่กำลังสนใจในการเลี้ยงนก และกำลังมองหาสายพันธุ์นกในไทยที่กำลังเป็นที่นิยม หรือมีลักษณะนิสัยที่น่ารัก เลี้ยงง่ายและฉลาด เราจึงได้รวบรวม 5 สายพันธุ์นกที่น่าเลี้ยงมาฝากทุกคนกันค่ะ จะมีสายพันธุ์ไหนบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ

5 สายพันธุ์นก ที่น่าเลี้ยง น่ารัก และมีสีสันสดใส

นกหงส์หยก

นกหงส์หยก เป็นนกแก้วขนาดเล็ก ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย โดยนกหงส์หยกนั้นจะมีสีเหลือง, เขียว, ฟ้า และขาว สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ที่ต้องการเลี้ยงนก จะเหมาะกับนกสายพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากดูแลง่าย และที่สำคัญมีลักษณะนิสัยของนกหงส์หยกนั้นค่อนข้างน่ารัก ขี้เล่น และฉลาด อีกทั้งยังเลียนเสียงของคนได้อีกด้วย ใครที่อยากฝึกนกให้พูดได้ ต้องไม่พลาดนกหงส์หยกเลยค่ะ

นกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด เป็นสายพันธุ์นก อีกสายพันธุ์หนึ่งที่เราอยากแนะนำให้คนที่อยากเลี้ยงนก และเหมาะกับคนขี้เหงา เนื่องจากนกชนิดนี้ เป็นนกที่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบอยู่ตัวเดียวดังนั้นจึงควรเลี้ยงเป็นคู่ และที่สำคัญคนที่จะเลือกเลี้ยงนกสายพันธุ์นี้จะต้องมีเวลาและใส่ใจกับนกของคุณให้มาก ๆ ซึ่งหากถูกละเลย นกจะเกิดอาการซึมเศร้า และทำร้ายตัวเองและเจ้าของได้

นกคอกคาเทล

หากคุณเป็นคนที่ชอบนกที่ชอบเข้าสังคม หรือเข้ากับเจ้าของได้ง่าย นกคอกคาเทล เป็นนกแก้วปากเล็กอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนกสายพันธุ์นี้เป็นนกที่มีนิสัยชอบเข้าสังคม แต่ในขณะเดียวก็ชอบความสงบ ซึ่งนกคอกคาเทลตัวผู้จะชอบร้องเพลง และจะมีหงอนสูงอยู่ด้านหน้า โดยราคาของนกคอกคาเทล อยู่ที่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นเท่านั้นค่ะ

นกฟินซ์

นกฟินซ์เป็นนกที่มีขนาดเล็ก และชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้นหากใครที่อยากเลี้ยงนกฟินซ์อาจจะต้องซื้อมากกว่า 2 ตัวขึ้นไป เพื่อให้นกไม่เกิดอาการเหงา นอกจากนี้นกฟินซ์ยังมีนิสัยร่าเริง มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ และมีขนสวยน่าสัมผัส

นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์

หากใครที่ชื่นชอบการเลี้ยงนกที่มีขนาดใหญ่ เราขอแนะนำนกแก้วสกาเล็ต มาคอร์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์นกแก้ว อีกสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ในตระกูลนกแก้ว แต่จะมีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่กว่า นกชนิดอื่น ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ แต่นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก เช่นไม่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่แคบ และผู้เลี้ยงมือใหม่ เพราะเป็นนกที่มีรูปแบบการเลี้ยงและพฤติกรรมค่อนข้างซับซ้อนนั่นเอง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงนก

จากที่เราได้ยกตัวอย่าง 5 สายพันธุ์นกน่าเลี้ยง ไปให้ทุกคนได้ทราบกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า นกแต่ละสายพันธุ์ที่เรากล่าวมานั้นส่วนใหญ่เป็นนกแก้ว ซึ่งเป็นสายพันธุ์นกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรต้องศึกษาคือ ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงนก คือนกแก้วบางชนิดไม่เหมาะกับการเลี้ยงให้คอนโด หรือพื้นที่ที่แคบ ๆ หรือบางชนิดไม่ใช่นกที่คุณจะสามารถไปเล่นกับพวกมันหรือสัมผัสตัวของพวกมันได้ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คุณควรต้องศึกษาให้ดีก่อนการเลือกซื้อนกสักตัวมาเลี้ยงนั่นเอง

การเลี้ยงนกสวยงามสำหรับคนที่เป็นมือใหม่นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ซึ่ง วิธี การดูแลเลี้ยงนก นับว่าเป็นสิ่งที่ควรศึกษาเราควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนกนับว่าเป็นสัตว์เอ็กโซติก ดังนั้นการเลี้ยงนกจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ ซึ่ง วิธี การดูแลเลี้ยงนก แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรูปแบบในการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลักษณะนิสัย, อาหาร รวมไปถึงรูปแบบที่อยู่อาศัย เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้นกสวยงามแต่ละชนิดจะมีวิธีการเลี้ยงนกที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง

5 ข้อมูลดี ๆวิธีการเลี้ยงนก ที่มือใหม่ หัดเลี้ยงนกแก้วควรรู้

สำหรับใครทำสนใจอยากเลี้ยงนกและอยากศึกษาวิธีการดูแลเลี้ยงนก เพื่อให้การเลี้ยงนกของเรานั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 5 ข้อมูลดี ๆ ที่มือใหม่ หัดเลี้ยงนกแก้วควรรู้ ซึ่งเป็นนกสวยงามยอดนิยมที่เหล่าคนเลี้ยงนกมักจะเลี้ยง โดยมี 5 ข้อดังนี้

1. นกแก้วนับว่าเป็นสปีชีส์

หากใครที่เคยเห็นบทความต่าง ๆ เกี่ยวกับนกสวยงามต่าง ๆ จะเห็นว่านกเหล่านั้นจะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มักจะรวมอยู่ในกลุ่มของนกแก้ว เช่นนกเลิฟเบิร์ด, นกหงส์หยก, นกซัน คอนัวร์ หรือนกแก้วเรนโบ เป็นต้น ซึ่งนกเหล่านี้ล้วนอยู่ในตระกูลของนกแก้ว โดยสังเกตง่าย ๆ จากจะงอยปากของนกตัวนั้น ๆ ซึ่งสายพันธุ์นกที่อยู่ในสปีชีส์นกแก้วนั้นมีอยู่มากกว่า 100 สายพันเลยทีเดียว

• นกแก้วสามารถฝึกได้

นกแก้วเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างฉลาด ซึ่งผู้เลี้ยงนั้นสามารถฝึกได้ เช่นฝึกให้พูดตาม หรือฝึกให้บินไปเกาะยังที่ต่าง ๆ ที่เราต้องการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านกแก้วทุกตัวจะฝึกแล้วเชื่อง เนื่องจากนกแต่ละตัวนั้นจะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป และพื้นฐานของนกไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง

• ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

การเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับนกแก้วที่เป็นสัตว์เอ็กโซติกนั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะในส่วนของค่ารักษาหากเกิดอาการเจ็บป่วย

• นกแก้วหลายชนิดต้องเล่นน้ำ

หากคุณเป็นคนที่เลี้ยงนกแก้วในเมืองไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อน สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องของอาหารนั่นก็คือ การเตรียมน้ำให้นกแก้วเล่น เนื่องจากนกแก้วชอบการเล่นน้ำ ซึ่งสำหรับน้ำที่เตรียมให้นกอาบควรเป็นน้ำผสมเกลือสปา และควรให้อาบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

• นกแก้วแต่ละสายพันธุ์มีที่ลักษณะที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน

นกแก้วแต่ละสายพันธุ์มีขนาดตัว และมีถิ่นกำเนิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงทำให้รูปแบบของสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับนกแก้วแต่ละสายพันธุ์นั้นแตกต่างกันออกไปด้วย เช่น นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์ เป็นนกแก้วที่มีขนาดตัวใหญ่ จึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในห้องแคบ ๆ หรือคอนโด เพราะจะทำให้นกแก้วเกิดความเครียดได้

วิธีการเลี้ยงนกแก้วให้เชื่อง ที่มือใหม่ก็ทำได้

อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า นกแก้วฝึกได้แต่ไม่เชื่อง เนื่องจากนกนั้นไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง โดยวิธีการดูแลเลี้ยงนกนั้น ส่วนใหญ่มักจะบอกว่านกแก้วนั้นฝึกได้ แต่จะทำอย่างไรหากเราเป็นมือใหม่ในการเลี้ยงนก ซึ่งวิธีเลี้ยงนกแก้วให้เชื่องหลัก ๆ คือการทำให้นกรู้สึกสบาย และเริ่มทำให้นกไว้ใจคุณ โดยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการฝึกนกแก้ว คุณก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ทั้งจากอินเตอร์เน็ตและผู้ที่เชี่ยวชาญในการเลี้ยงและฝึกนกก็ได้เช่นกันค่ะ

สำหรับการเลี้ยงนก นอกจากที่อยู่อาศัย หรือวิธีการฝึกนกที่เหล่าผู้เลี้ยงควรศึกษา และควรใส่ใจ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ต่างกันนั้นก็คือ อาหารของนก โดยนกแต่ละชนิดนั้นสามารถกินอาหารได้ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ แมลง และอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องใส่ใจในเรื่องอาหารของนกนั้น ก็คือควรให้นกกินอาหารที่หลากหลาย เพราะหากนกกินอาหารแบบเดียวหรือประเภทเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานอาจจะส่งผลเสียให้กับร่างกายของนกได้ เช่นสารอาหารไม่เพียงพอ หรืออาจจะมีอาหารเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วยนั่นเองค่ะ

นกกินพืชได้ไหม และอาหารประเภทใดจึงจะเหมาะสมกับนกที่เราเลี้ยง

เนื่องจากนกเป็นสัตว์ตามธรรมชาติ ที่ถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงมาเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นนกส่วนใหญ่จึงมีสัญชาตญาณวิธีการหาอาหารเป็นเป็นของตัวเอง ซึ่งหากถามว่านกกินพืชได้ไหม เราต้องของบอกว่านกหลาย ๆ สายพันธุ์สามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ จำพวกหนอน หรือแมลงตัวเล็ก ๆ อย่างตั๊กแตน เป็นต้น ซึ่งนกที่อยู่ตามธรรมชาติก็มักจะหาอาหารที่เหมาะกับตัวเองสลับกันไป และหากสังเกตคือพวกมันจะไม่ได้กินอาหารอะไรเป็นเวลานานจนเกินไป ซึ่งการกินอาหารที่หลากหลายนั้น เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายของพวกมัน

แต่ถ้าหากเป็นนกที่เราเลี้ยงเองเราจะทราบได้อย่างไรว่า อาหารของนกที่เหมาะกับนกที่เราเลี้ยงควรเป็นอาหารประเภทใด โดยเราของยกตัวอย่างดังนี้ โดยหากเป็นนกส่วนใหญ่ที่อยู่ในตระกูลนกแก้วจะสามารถกินได้ทั้งพืช สัตว์ และอาหารเมล็ดที่เป็นอาหารเฉพาะของนกแก้ว ซึ่งควรให้หมุนเวียนกันไป ไม่ควรให้เลือกอาหารเพียงอย่างหนึ่ง

และถ้าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงนกสายพันธุ์ไทย อย่างเช่นนกเขา นกขุนทอง หรือนกกรงหัวจุก อาหารของนก ส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดพืช อย่างข้าว, งา และข้าวฟ่าง เป็นต้น ยกเว้นนกกรงหัวจุกที่จะเน้นการกินแมลงจำพวกหนอนนก, ไข่มดแดง, ปลวก, จิ้งหรีด, ตั๊กแตน และแมลงเม่า เป็นต้น ซึ่งอาหารของนกกรงหัวจุกจะเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงเป็นพิเศษนั่นเอง

อาหารที่นกห้ามกิน และอาจจะอันตรายถึงชีวิต

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับอาหารของนก ซึ่งเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายของนกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเรามาทำความรู้จักกับอาหารที่นกห้ามกิน ซึ่งเป็นอาหารที่นอกจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายของนกแล้วยังอาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมาด้วย

ซึ่งอาหารเหล่านั้นก็ตัวอย่างเช่น นม, เนยแข็ง, ช็อกโกแลต, เกลือ, อาโวคาโด และเมล็ดแอปเปิล เป็นต้น โดยหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า เพราะเหตุใดนกจึงไม่สามารถกินอาหารเหล่านี้ได้ ทั้ง ๆ ที่บางชนิดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ อย่างเช่น นม ซึ่งนมนั้นมีประโยชน์ก็จริง แต่นกไม่ใช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ดังนั้นร่างกายของนกจึงไม่มีระบบย้อยน้ำตาลแล็กโทสที่มีอยู่ในนม ซึ่งหากให้นกกินนมในปริมาณที่มากก็จะทำให้นกเกิดอาการท้องเสียตามมานั่นเอง  

ชูการไรเดอร์นั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อเป็นประโยชน์ในการเจริญเติบโตของมัน ฉะนั้นการให้ อาหารของชูก้าไรเดอร์ นั้นผู้เลี้ยงควรที่จะศึกษาข้อมูลการให้อาหารของมันให้ถูกต้องเพื่องที่มันนั้นจะได้เติบโตอย่างสมบูรณ์และอยู่กับคนเลี้ยงได้นานๆ

ชี้แนะ อาหารของชูก้าไรเดอร์ ในแต่ละวัยนั้นควรให้อย่างไร

อาหารของชูก้าไรเดอร์ ในช่วงวัยแรกเกิด ถึง 4 เดือน น้องควรจะได้กินนมแม่ แต่ในกรณีที่เรานำน้องมาเลี้ยงด้วยตัวเองตั้งแต่ช่วงวัยนี้ วิธีเลี้ยงชูก้าไรเดอร์ 2 เดือน เราจำเป็นที่จะต้องให้นมอื่นทดแทนนมแม่ เช่น นมชูก้าร์ นมแพะ นมแมว ยกเว้นนมวัวที่ให้ไม่ได้เพราะย่อยไม่ได้ หากซื้อแนะนำเป็นนมยี่ห้อเคเอ็มอาร์ เอสบีแล็ก รอยัลคาร์นิน สลิกกี้ โคโคแคท หรือพอสซั่มมิลล์

โดยจะต้องป้อนนมวันละ 3 – 4 มื้อ หรือภายใน 1 วัน ควรป้อนทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละครั้งไม่ต้องให้น้องกินจนแน่นท้องจนเกินไป ควรเน้นให้นมในเวลากลางคืนตามธรรมชาติของน้องเขาจะกินในเวลากลางคืนและนอนกลางวัน อาจใช้สลิ่งในการป้อนนม

เมื่อน้องอาหารของชูก้าไรเดอร์ ที่มีอายุมากกว่า 4 เดือน ถือว่าน้องอยู่ในวัยที่สามารถกินแมลง เนื้อสัตว์ รวมถึงอาหารเสริมที่เป็นโปรตีน แคลเซียม HPWได้ โดยเราจะต้องปรับมื้อสูตรอาหารชูก้าให้เหมาะสมกับอายุโดยลดจำนวนมื้อลง เหลือมื้ออาหารหลักให้เช้าและเย็น ควรที่จะให้อาหารที่หลากหลาย

เมื่อน้องชูก้าไรเดอร์มีอายุมากกว่า 1 ปีเป็นต้นไป จะถือว่าเข้าสู่วัยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ให้ทานนมเป็นอาหารเสริมสำหรับร่างกาย และให้ลดปริมาณการทานนมลงเหลือมื้อละ 1 ครั้ง พออายุเพิ่มมากขึ้นให้ปรับเป็นวันเว้นวัน หรือ 2 – 3 วันทานครั้ง มาเน้นการกินอาหารอื่นๆ

ชูก้าไรเดอร์ Normal สายพันธุ์ปกติธรรมดา หรือที่เรียกว่า Classic Grey สายพันธุ์นี้หลายคนนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายชูก้าพันธุ์นอมอล ราคาเท่าไร ด้วยราคาค่าตัวน้องไม่สูงมาก ราคาโดยประมาณจะอยู่ระหว่าง 800 – 1,200 บาท โดยตัวเมียจะมีราคาสูงมากกว่าตัวผู้ เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงสัตว์ Exotic ลักษณะของ สายพันธุ์ชูก้าไรเดอร์ อย่างสายพันธุ์นอมอล สีของน้องจะไม่ปรากฏเป็นสีขาวมากนัก จะเห็นสีขาวแค่ช่วงหน้าท้อง ใบหน้าจะมีลายสีดำ ส่วนขนทั้งร่างของน้องจะปรากฏเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ หรือบางตัวจะปรากฏเป็นสีเทา ส่วนสีดำนั้นแซมเป็นทางตรงตั้งแต่บริเวณหัว ก้น ลงมาจนถึงปลายหาง ชูก้าไรเดอร์ สายพันธุ์ White Face

สายพันธุ์ White Face

อีกสายพันธุ์ที่นิยมแพร่หลายพอๆ กันกับสายพันธุ์นอมอล คือ น้องชูก้าไรเดอร์สายพันธุ์ White Face ลักษณะของน้องจะมีความใกล้เคียงกับสายพันธุ์นอมอลอย่างมาก แต่น้องมีลักษณะพิเศษตามชื่อคือมีใบหน้าและแก้มที่ขาวมากกว่าพันธุ์นอมอล โดยจะไม่มีสีดำจากใบหูถึงบริเวณดวงตา ซึ่งค่าตัวน้องจะสูงมากกว่าพันธุ์นอมอล ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป และตัวเมียจะแพงกว่าตัวผู้เช่นกัน

แนะนำน้องชูก้าไรเดอร์สายพันธุ์พรีเมี่ยม พันธุ์โมซาอิ

สายพันธุ์ Masaic (โมซาอิ)

น้องชูก้าไรเดอร์ สายพันธุ์ Masaic (โมซาอิ) เป็นสายพันธุ์พรีเมี่ยมที่มีลักษณะเด่นแตกต่างจากสายพันธุ์นอมอล และสายพันธุ์ไวท์เฟค เพราะน้องจะมีลักษณะพิเศษของขนที่มีสีบลอนเงิน หรือที่เรียกกันว่า Platinum colored Mosaic โดยแต่ละตัวจะมีสีบลอนเงินที่แสดงออกมามากน้อยแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการผสมของเชื้อจากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ด้วยสาเหตุที่ผสมพันธุ์ได้ยาก จึงทำให้น้องชูก้า สาย พันธุ์ โม ซา อิสายพันธุ์นี้ มีราคาสูงถึง 4,000 บาทขึ้นไป นอกจากนี้น้องยังมีลักษณะเป็นสีขาว สีครีมแทรกอยู่บนร่างกายอีกด้วย

แนะนำ สายพันธุ์ชูก้าไรเดอร์ ที่มีความโดดเด่นอยู่ดวงตาและขนสีขาวสนิท

1.ชูก้าไรเดอร์ สายพันธุ์ Leucistic

            สายพันธุ์ชูก้าไรเดอร์ที่มีความโดดเด่นพิเศษปรากฏผ่านดวงตาของน้อง มีอยู่ 2 สายพันธุ์ที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ได้แก่ น้องชูก้าไรเดอร์ สายพันธุ์ Leucistic ที่ร่างกายของน้องจะมีสีขาวสนิท และมี Black Eye ที่น่าสนใจ โดยค่าตัวของน้องสูงถึง 4 หมื่นบาท

2.ชูก้าไรเดอร์ สายพันธุ์ Albino

อีกสายพันธุ์ที่มีขนและดวงตาเป็นจุดเด่นไม่แพ้กัน คือ น้องชูก้าไรเดอร์สายพันธุ์ Albino เป็นชูก้าไรเดอร์เผือก เพราะทั้งตัวขาวสนิทหรืออาจเป็นสีครีมล้วน ไม่มีลายอื่นใดแทรก ส่วนของดวงตาจุดเด่นเป็นสีชมพู คนนิยมเรียกน้องว่า BEW (Black Eye White) นอกจากนี้น้องยังมีใบหูที่โปร่งแสงอีกด้วย ค่าตัวน้องสูงมากๆ โดยจะอยู่ที่ 7 หมื่น ไปจนถึง 1 แสนบาทเลยทีเดียว

ติดตามความรู้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงสายพันุธ์ต่างๆที่คุณรักได้ทางเว็บไซตของเรารับรองคุณจะได้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์เราไม่น้อยเลย

การดูแลชูก้าไรเดอร์ ให้ดีได้นั้น เราควรทำความรู้จักลักษณะนิสัยของน้องเสียก่อน โดยลักษณะนิสัยที่คนเลี้ยงควรทราบ คือ น้องเป็นสัตว์หากินและกระโดดเล่นในตอนกลางคืน กลางวันน้องถึงจะเข้านอนในโพรงหรือที่อยู่ บางครั้งน้องจะส่งเสียงเห่าแบบสุนัขตัวเล็ก แต่น้องเป็นสัตว์ประเภทขับถ่ายอึ, ปัสสาวะไม่เป็นที่ และเป็นสัตว์ประเภทที่เราไม่สามารถไปสั่งสอนเขาได้ ทั้งนี้กลิ่นของเสียจากร่างกายของน้องไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ก็ควรดูแลให้มีถาดเอาไว้สำหรับรองอึและฉี่ของน้อง และควรจะหมั่นทำความสะอาด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

การดูแลชูก้าไรเดอร์ แต่ละช่วงอายุมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป

การดูแลชูก้าไรเดอร์ในช่วงวัยแรกเกิด ไปจนถึง 3 เดือน คือช่วงที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ จำเป็นที่จะต้องให้นมกับน้อง 4 มื้อ จะให้อาหารอื่นไม่ได้ เพราะไม่สามารถย่อยอาหารอื่นได้ และจะต้องสังเกตว่าน้องมีอาการท้องเสียหรือไม่ เมื่อมีอายุมากกว่า 4 เดือน เราจะเลี้ยงน้องได้ง่ายมากขึ้น เพราะน้องสามารถกินผลไม้ที่มีรสหวานได้ โดยของโปรดของน้องจะเป็นกล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล

นอกจากนี้ยังเริ่มให้น้องกินแมลงต่างๆ ได้อีกด้วย โดยผู้เลี้ยงจะต้องค่อยๆ ปรับมื้ออาหารให้ลดลงเหลือ 2 มื้อหลัก เช้าและเย็น ส่วนช่วงกลางวันก่อนน้องนอนจึงให้ขนมหรือผลไม้ ในกรณีที่อยากพกพาน้องออกไปไหนด้วยหรือจำเป็นต้องพาไป เราจะต้องดูแลนำตัวน้องใส่ลงไปในกระเป๋าสำหรับใส่ตัวชูก้าไรเดอร์ โดยภายในกระเป๋าจะต้องมีผ้าไว้สำหรับให้น้องนอนอีกด้วย

การดูแลเรื่องสุขอนามัยของน้องชูก้าไรเดอร์

ผู้เลี้ยงจะต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดร่างกายน้อง เพราะน้องมีกลิ่นค่อนข้างแรง โดยการเช็ดตัวทำได้ด้วยการนำผ้าเปียกหรือสำลีไปชุบน้ำเช็ด แล้วจึงเช็ดด้วยผ้าทำให้ตัวน้องแห้ง อาจจะใช้สเปรย์ดับกลิ่น ที่ไม่เป็นอันตรายกับน้องได้เช่นกัน อีกเรื่องคือน้องมีเล็บที่ยาว จำเป็นจะต้องใช้กรรไกรตัดเล็บตัดออกไป กรรไกรตัดเล็บอาจใช้แบบเดียวกับของคนเราได้ หรือจะหาซื้อแบบเฉพาะของน้องชูก้าไรเดอร์ก็สามารถหาซื้อได้ นอกจากนี้เรื่องของฟันก็จะต้องดูแลไม่ให้ฟันน้องมีคราบที่สะสม เพราะอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับช่องปากได้ หากทำการดูแลชูก้าไรเดอร์  ได้ครบตามนี้ สุขอนามัยของน้องก็ดีเยี่ยม ไม่น่าเป็นห่วง